ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

Sportify x Arsenal “ดีลที่มองวิกฤตเป็นโอกาส”

     กลายเป็นข่าวใหญ่ในรอบ 2-3 วันที่ผ่านมา หลังจาก บีบีซี รายงานความสนใจในการลงทุน ซื้อหุ้นสโมสร อาร์เซนอล ของ ดาเนียล เอ็ก (Daniel Ek) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง แอพพลิเคชัน และเว็บไซต์ชื่อดังในนาม Spotify ที่ออกมาทวิตข้อความ “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ไปยังแฟนปืนใหญ่ทั่วโลก

     “ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กจำความได้ ผมเชียร์ อาร์เซนอล มาโดยตลอด ถ้า เคเอสอี (โครเอนเก้ สปอร์ต แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์) ต้องการขายอาร์เซนอล ผมก็เต็มใจพร้อมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาร์เซนอล”

Spotify (สปอทิฟาย)

     Spotify (สปอทิฟาย) คือบริษัท ผู้ให้บริการ สตรีมเพลง, พอดแคสท์ รวมถึง วิดีโอ โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2008 ในประเทศสวีเดน โดยเริ่มต้นจากการเป็น ธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ได้รับเงินทุน และพัฒนาบริการของตนเองอย่างรวดเร็ว จนถึงวันนี้ พวกเขาคือหนึ่งในบริการชั้นนำของโลกในเรื่องของการสตรีมเพลง ที่รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการหลายแพลตฟอร์มชั้นนำของวงการไอที โดยก่อนจะไปคุยเรื่องของ อาร์เซนอล และ สปอทิฟาย เราไปอัพเดตกันก่อนว่า ดาเนียล เอ็ก เป็นใครกันแน่ ผมเชื่อว่าแฟนบอลหลายท่านจะไม่คุ้นชื่อของเขาแน่นอน

     ดาเนียล เอ็ก ผู้ก่อตั้งมีอายุเพียง 38 ปี เขาเกิดใน สต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ภายใต้ครอบครัวที่ พ่อจากไปตั้งแต่เด็ก และคุณแม่แต่งงานใหม่ ซึ่งพ่อเลี้ยงของเขาคนนี้นี่ล่ะ ที่ทำให้เขาสนใจไอที เพราะ เขาทำงานด้านไอที ส่วนครอบครัวของเอ็ก ส่วนมากเป็นนักดนตรีกันเสียเป็นส่วนมาก และ เอ็ก ก็ทำให้เรื่องทั้งสองเรื่องกลายเป็นเรื่องเดียวกันในเวลาต่อมา

     เข้าสู่วัยรุ่น เอ็ก เข้าสู่การทำงานด้านโปรแกรมเมอร์ และทำงานเขียนเว็บไซต์ ตั้งแต่ปี 1997 ตอนนั้นอายุ 14 โดยมีการระบุว่า เขาทำกลยุทธ์การตลาดในการเรียกลูกค้า และทำให้เขามีรายได้มากถึง 15,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 450,000 บาท

     หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย เข้าสู่มหาวิทยาลัย เอ็ก ตัดสินใจหยุดเรียน มหาวิทยาลัย หลังจากพบว่า การเรียน มันเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น เขาต้องการประสบการณ์ตรง ทำให้เขาหันออกมาทำงานแทน และเขาก็ไปทำงานหลายรูปแบบ แต่ที่ทำให้เขาดังสุดขีดคือการ เขียนโปรแกรม เขียนเก่งจนถึงขั้นที่ว่าเปิดบริษัทเอง และก็ขายมันออกไปด้วยเงินมหาศาล ทั้งหมดเกิดขึ้นตอนอายุ 23 ปี

     อย่างไรก็ตาม เงินมา งานดี วัยหนุ่ม ชีวิตมันใช้ซะ ว่าแล้ว เอ็ก เลยเที่ยวยับ ปาร์ตี้แหลกลาญ เปลี่ยนรถสปอร์ตบ่อย ควงสาวเป็นสิบ สุดท้าย มันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง และเขาเริ่มเจอกับ ความเบื่อหน่าย จนเริ่มมีอาการเบื้องต้นของความซึมเศร้า เขาเริ่มปลีกวิเวกเข้าป่า และใช้เวลากับตัวเองอย่างมาก จนกระทั่งเจอกับสิ่งแรกที่เขาคุ้นเคยนั่นคือ ดนตรี และในช่วงเวลานั้น มาร์ติน ลอเรนซอน ผู้บริหารคนหนึ่งที่ เอ็ก เคยทำงานด้วยก็มาพบกับเขา แม้ว่าจะไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้ว แต่ก็ยังติดต่อคุยกันตลอด ซึ่ง มาร์ติน คนนี้นี่ล่ะ ที่ทำให้ เอ็ก กลับมามีชีวิตแบบที่ควรจะเป็น และมีการคุยกันหลายเรื่องกับงานใหม่ ๆ โปรเจคต์ใหม่ สุดท้ายแล้ว ความรู้ในเทคโนโลยี และ ความรักในเสียงเพลง ก็กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ สปอติฟาย ในเวลาต่อมา ภายใต้ความคิดตั้งต้นที่ว่า เพลงผิดลิขสิทธิ์มีเยอะมาก เขาต้องการให้มีการเปิดเสรี ฟังฟรีในแบบถูกลิขสิทธิ์ ในแบบที่ค่ายเพลง หรือศิลปิน ได้เงินด้วย นั่นคือ วิกฤตที่เขามองเห็นถึงโอกาสในการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงทำงานร่วมกัน และฝ่าฝันเรื่องราวต่าง ๆ จนทำให้ สปอติฟาย กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในการบริการด้านเสียงเพลง ส่วน เอ็ก มีทรัพย์สินส่วนตัวมากถึง 3,380 ล้านปอนด์ โดยประมาณ

อาร์เซนอล ณ.เวลานี้ กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องบอกว่า “ทรมาน”

     พลิกวิกฤตเป็นโอกาส คำนี้เรามักจะได้ยินบ่อยครั้งมาก ในทุกวงการ ทุกปัญหา จะมีโอกาส ขึ้นกับ จังหวะ เวลา และคุณมีดีอย่างไร จะทำให้มันเป็นจริง และ เอ็ก มองเห็นวิกฤตที่เกิดขึ้นกับอาร์เซนอลเป็นโอกาส กับสิ่งที่เขาสนใจอีกอย่างหนึ่งในชีวิต

     อาร์เซนอล ณ.เวลานี้ กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องบอกว่า “ทรมาน” กับผลงานในสนามที่ไม่สวยงามเท่าไรนัก พวกเขาเหลือความหวังเดียว อันเป็นเหมือน “แสงสุดท้าย” กับความหวังในการลงเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า

     นอกสนาม อาร์เซนอล และอีก 11 สโมสรฟุตบอล เลือกใช้ “ทางออก” ที่ง่ายที่สุด ในการแก้ไขปัญหา “รายได้ไม่มี รายจ่ายเดินตลอด” ในช่วงการระบาดของโควิด-19 นั่นคือการเข้าร่วม ซูเปอร์ ลีก ภายใต้การชักนำของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ที่มาพร้อมกับข้อเสนออย่างงาม เร้าใจ แต่สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ในเวลาเพียงสามวัน เมื่อแฟนบอลหลายสโมสร รวมถึง อาร์เซนอล แสดงพลังของพวกเขาในการต่อต้านสิ่งที่เกิดขึ้น จนนำมาซึ่งการต่อต้านอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกับตัว ประธานสโมสร หรือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของทุกสโมสร ที่โดนขับไล่กันแบบเรียงตัว

     สแตน โครเอนเก้ คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของแฟนบอลอาร์เซนอลทุกคน ซึ่งต้องบอกว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะ โครเอนเก้ ไม่เคยเป็นที่รักของ “เดอะ กันเนอร์ส” อยู่แล้ว จากการซื้อหุ้นสโมสรมาแล้ว แต่กลับไม่ลงทุนที่จะผลักดันทีมไปข้างหน้าอย่างที่เขาเคยขายฝันเอาไว้ ในช่วงปี 2007 ที่เข้ามาสู่สโมสร ด้วยหุ้นจำนวน 9.9 % ก่อนที่สุดท้ายเขาจะกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 93.6 % ในปัจจุบัน

ลุ้นระทึกเหลือเกิน

     สถานการณ์ของ โคนเอนเก้ กับบริษัท โครเอนเก้น สปอร์ต แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ก็ได้รับผลกระทบเยอะมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกธุรกิจกีฬาของเขาทั้งทีม ฮอกกี้น้ำแข็ง, บาสเก็ตบอล ไปจนถึงฟุตบอล ประสบปัญหาเดียวกันหมด โดยแม้ว่า จอช โครเอนเก้ บุตรชายชองเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารของสโมสรจะออกมากล่าวว่า พ่อของเขาไม่มีความคิดปล่อยหุ้นของ อาร์เซนอล ออกไปก็ตาม แต่หากมองในเรื่องของ สถาการณ์ความจริงในเศรษฐกิจ และแรงกดดันที่ถูกโจมตีมาโดยตลอดหลายปี ที่กลับมาปะทุอีกครั้งจากการเข้าร่วม ซูเปอร์ ลีก มันก็น่าคิดว่าพวกเขาจะมี “ใจอ่อน” หรือไม่ แต่สำหรับแฟนบอล “อ่อนใจ” กับ สแตน โครเอนเก้ มานานแล้ว

     รายงานจาก เดอะ การ์เดี้ยน ระบุมองว่า โครเอนเก้ มีโอกาสเหมือนกันที่จะปล่อย หุ้นของตนเองออกมาแลกกับเงินก้อนใหญ่ โดยคาดว่าเขามองถึงตัวเลข 2,000 ล้านปอนด์ ในการเจรจาสำหรับใครก็ตามที่อยากได้ปืนใหญ่แห่งลอนดอน ไปบริหารต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่มีการยืนยันว่าตัวเลขนี้จะดีพอหรือไม่

     ในส่วนของ ผู้ซื้อ อย่าง เอ็ก มีรายงานว่า เขาสนใจชวน อดีตสุดยอด นักเตะ อาร์เซนอล อย่าง เธียร์รี่ อองรี, ปาทริค วิเอร่า และ เดนนิส เบิร์กแคมป์ เข้ามาร่วมกันลงทุนในการประมูล เป็นเจ้าของสโมสร อาร์เซนอล ด้วย ซึ่งทั้งสามคนลงเล่นกับ อาร์เซนอล ไม่ต่ำกว่าคนละ 7 ปี และเป็นที่รักอันดับต้น ๆ ของแฟนบอล อาร์เซนอลมาตลอด 20 ปีหลังสุด ซึ่งแน่นอนว่า การทำเช่นนี้ จะยิ่งทำให้ ฐานความเชื่อมั่นของในการยื่นซื้อของ ดาเนียล เอ็ก น่าสนใจยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของ ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อ และ ความรัก ที่แฟนบอลจะมอบให้กับ สามยอดนักเตะของพวกเขา ที่ตลอดมา พวกเขาชัดเจนเสมอว่า อยากกลับมา อาร์เซนอล ผ่านการสัมภาษณ์มาตลอดหลายปี

     จากการยืนยันของ สกาย สปอร์ต ระบุว่า การยื่นข้อเสนอจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เอ็ก ได้ทำการเตรียมระดมทุนเสร็จแล้ว และ นักเตะสามคนของปืนใหญ่ จะอยู่ในส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย ต่อจากนี้ไปคือการยื่นข้อเสนอ โดยมีการคาดเดาจากหลายสื่อว่า 1,800 ล้านปอนด์ คือตัวเลขแรกในการยื่นซื้อ ซึ่งจะน้อยกว่าที่ โครเอนเก้ คาดหวังไว้ (จากตัวเลขของสื่อ) อยู่ประมาณ 200 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม การซื้อขายขึ้นกับความพอใจของทั้งสองฝ่ายเป็นหลัก ถ้าคุยกันลงตัวก็เป็นอันจบ ที่เหลือก็มารอลุ้นกันว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่กับการเจรจาที่ เอ็ก มองเห็น “วิกฤต” ของโครเอนเก้ และ อาร์เซนอล กำลังเผชิญ คือ “โอกาส” ในการเข้ามาบริหารธุรกิจที่เขาระบุว่า ชื่นชอบมาตั้งแต่จำความได้

 

ดีลนี้ลุ้นระทึกเหลือเกิน

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้