Rare Item! 6 นักเตะ กับ 5 ลีกใหญ่

การลงเล่นในฟุตบอลยุโรป เป็นสิ่งที่นักเตะทุกคนปรารถนา แน่นอน การเล่นฟุตบอลลีกใหญ่ สักลีกหนึ่งในยุโรป ก็นับเป็นความสำเร็จระดับหนึ่งของนักเตะแล้ว หลายคนเคยลงเล่นใน พรีเมียร์ ลีก หลายคนเคยผ่าน เวที เซเรีย อา หรือบางคนเคยแวะเวียนไปซดเบียร์ ที่ บุนเดสลีกา เยอรมัน เช่นเดียวกับการได้กล่าว บองชูว์ กับชีวิตในฝรั่งเศส รวมถึงอีกหลายคนได้มีโอกาส เจอกับ หาดสวย อากาศดี สตรีตาคม ในสเปน กันมาแล้ว

แต่ทราบหรือไม่ว่า มี นักเตะ เพียงไม่กี่คนเท่านั้นในโลก ฟุตบอล ที่จะลงเล่นฟุตบอลบน ลีกสูงสุด ของประเทศเหล่านั้น ครบทั้งหมดในช่วงชีวิตการเล่นฟุตบอล ซึ่งเฉลี่ยต่อคนจะเล่นอยู่ที่ประมาณ 12-15 ปี เท่านั้น ว่าแล้ว เราจะพาคุณไปรู้จักกับ นักเตะ เหล่านั้นกัน ว่าใครกันบ้าง ที่เคยผ่านประสบการณ์ที่เราว่ามาแล้ว หรือบางคนอาจไม่ครบ 5 แต่ก็ต้องบอกว่าใกล้เคียง

เริ่มจากนักเตะสองคนแรก

ฟลอริน ราดูโชยู (เซเรีย อา / ลา ลีกา / พรีเมียร์ ลีก / บุนเดสลีกา / ลีก เอิง)

กองหน้าทีมชาติ โรมาเนีย คนนี้ หากคุณเป็นสาวกของฟุตบอลในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 น่าจะคุ้นชื่อกันอยู่บ้าง เพราะเขาสร้างชื่อมากับ ดินาโม บูคาเรสต์ ทีมในบ้านเกิด ตั้งแต่อายุยังไม่ 20 ปี หลังจากนั้นก็ออกเดินทางท่องยุโรปกันเลย เริ่มต้นจาก อิตาลี ซึ่งเขาผ่านการลงเล่นมาแล้วทั้งกับ บารี่, เวโรน่า, เบรสชา และมีหนึ่งฤดูกาลกับ เอซี มิลาน มาแล้ว แม้จะต้องบอกว่า ผลงานล้มเหลวก็เถอะ

หลังจากนั้น ย้ายไปเล่นในสเปน กับ เอสปันญ่อล ซึ่งเขากลับมาทำผลงานได้น่าพอใจ ก่อนจะติดทีมชาติ โรมาเนีย ในฟุตบอลยูโร 1996 และฟอร์มดี จนทำให้ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม พาตัวเขามาเล่นใน พรีเมียร์ ลีก แต่แล้วเขาก็ปรับตัวไม่ได้เลย อยู่ได้ปีเดียวก็ต้องออกจากเกาะอังกฤษ กลับไปซบ เอสปันญ่อล ทีมเก่าแบบยืมตัว ก่อนจะย้ายทีมอีกครั้ง

บุนเดสลีกา กลายเป็นสนามแข่งใหม่ ประเทศใหม่ของเขา เขาร่วมงานกับ สตุ๊ตการ์ท ซึ่งก็ต้องบอกว่า ฟอร์มเก่งหายไปพร้อมกับ ฟองเบียร์ ทำไป 4 ประตู จาก 19 เกม ย้ายสิครับ รออะไร เขาย้ายไปเล่นกับอีกหลายทีมนับจากนั้น ทั้งใน อิตาลี หรือว่า โรมาเนีย แต่ก็ไม่ปังเท่าเก่าแล้ว จนในปี 2001 เขาย้ายไปเล่น ใน ลีก เอิง กับ อาแอส โมนาโก ทำให้เขาลงเล่นครบ 5 ลีกใหญ่ ในยุโรป แม้ว่าผลงานจะไม่สวยก็เถอะ โดยราดูโชยู เลิกเล่นฟุตบอลในปี 2004

คริสเตียน โพลเซ่น (บุนเดสลีกา / ลา ลีกา / เซเรีย อา / พรีเมียร์ ลีก / ลีก เอิง)

กองกลางตัวรับทีมชาติ เดนมาร์ก เห็นเงียบๆ แบบนี้ พี่แกไปมาครบ 5 ลีกใหญ่ แถมด้วย เอเรเดวิซี ลีก ในประเทศ เนเธอร์แลนด์ อีกหนึ่งลีก เรียกว่าครบเรื่องลีกดัง โพลเซ่น ไปลองของมาหมดแล้ว

จากเด็กปั้นของสโมสร โฮลเบ็ค ในเดนมาร์ก ตามด้วย เอฟซี โคเปนเฮเก้น ทีมดังในบ้านเกิด เขาเริ่มต้นเข้าสู่ลีกใหญ่กับ ชาลเก้ 04 ในเยอรมัน ซึ่งเขาทำผลงานได้ดีมาก อยู่กับทีมนานถึง 4 ปี ก่อนจะย้ายไปเล่นใน ลา ลีกา สเปน กับ เซบีย่า ซึ่งที่นั่นเขาได้แชมป์ ยูฟ่า คัพ ในปี 2007 มาครอง ก่อนจะย้ายไปเล่นใน เซเรีย อา กับ ยูเวนตุส ในยุคสร้างทีมหลังจากตกชั้นในคดี “กัลโช่โปลี” ก่อนที่จะย้ายมาเล่นใน อังกฤษ กับ ลิเวอร์พูล แต่ก็ต้องบอกว่า เหมือนย้ายมาเที่ยว แอนฟิลด์ เพราะว่าลงเล่นน้อยมาก ทำให้ย้ายทีมอีกครั้ง

เอเวียง กลายเป็นสโมสรที่ทำให้เขาลงเล่นครบ 5 ลีกใหญ่ เขาเซ็นสัญญาเขาทีมจากฝรั่งเศส ด้วยสัญญาหยึ่งปี ก่อนจะเพิ่มดีกรีความครบเครื่องด้วยการย้ายไปเล่น กับ อาแจ็กซ์ ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นลีกชั้นนำรองมาจาก 5 ลีกใหญ่ ยิ่งทำให้ สถิติการเล่นครบลีกใหญ่ของเขา ยากจะหาใครมาทำได้เหมือนเขา สุดท้ายเขาเลิกเล่ยในปี 2015 กับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น

ถัดมาในลำดับ ที่ 3 4

จอร์จี้ โปเปสคู (พรีเมียร์ ลีก / ลา ลีกา / เซเรีย อา / บุนเดสลีกา)

ยอดกองหลังระดับตำนานของทีมชาติโรมาเนีย แม้จะไม่ครบ 5 ลีกใหญ่แบบราดูโชยู รุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติ แต่ต้องบอกว่า คุณภาพ และผลงานของ “จอร์จี้” คับแก้วกว่ามาก

เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ ยูนิเวอร์ซิตัด ไครโอว่าในบ้านเกิด ก่อนย้ายมาเล่นกับ สเตอัว บูคาเรสต์ ตามด้วย พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ใน เนเธอร์แลนด์ ซึ่งที่นั่นเขาช่วยทีมคว้าแชมป์ ลีกดัตซ์ได้สองสมัย ติดต่อกัน ก่อนย้ายไปเล่นกับ สเปอร์ส ในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ซึ่งก็เป็นตัวหลักของทีม แต่ก็อยู่กับทีมเพียงหนึ่งปี ผลงานดี โอกาสใหญ่ก็มาถึง

บาร์เซโลน่า ชวนเขาไปดู มาธาดอร์ ด้วยกันที่ สเปน และเขาลงเล่นกับ บาร์ซ่า 2 ฤดูกาล ในยุตของ เซอร์ บ๊อบบี้ ร็อบสัน ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ ที่เขาได้ความสำเร็จทั้ง โคปา เดล เรย์ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ ไปประดับโปรไฟล์ตัวเอง ก่อนที่จะย้ายกลับบ้านไปเล่น ในตุรกี กับ กาลาตาซาราย และที่นี่ เขากลายเป็น โคตรกองหลังของทีม ตลอด 4 ปี โปเปสคู สอยแชมป์ลีกสามสมัย บอลถ้วยในประเทศอีกสองสมัย บวกด้วย ยูฟ่า คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ อีกอย่างละสมัย เรียกว่าความสำเร็จเต็มคราบ

อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุที่มากขึ้น โปเปสคู ก็รู้ตัวว่าเวลาน้อยลงทุกที อยากได้ความท้าทายใหม่ เขาตัดสินใจรับข้อเสนอของ “หมาป่าแห่งปูเยีย” เลชเช่ ทีมใน กัลโช่ เซเรีย อา และลงเล่นกับทีมนั่นหนึ่งฤดูกาล เป็นประสบการณ์ชีวิต ก่อนจะกลับไปเล่นกับ ดินาโม บูคาเรสต์ ทีมเก่าสมัยวัยรุ่น อีกเล็กน้อย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการไปเล่นฟุตบอลใน บุนเดสลีกา เยอรมัน กับสโมสร ฮันโนเวอร์ 96

ทั้งนี้ โปเปสคู คว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมของประเทศ โรมาเนีย มากถึง 6 ครั้ง ตลอดการเล่นฟุตบอลอาชีพ เป็นรองเพียง “มาราโดน่า แห่งคาบสมุทรบอลข่าน” จอร์จี้ ฮาจี้ เพลย์เมคเกอร์ ร่วมรุ่นของเขานั่นเอง โดย ฮาจี้ คว้ารางวัลนี้ไปครองถึง 7 ครั้ง

ยอน ดาห์ล โทมัสสัน (พรีเมียร์ ลีก / เซเรีย อา / บุนเดสลีกา / ลา ลีกา)

อีกหนึ่ง นักเตะ เดนมาร์ก ที่ลงเล่นในหลากหลายลีกชั้นนำของยุโรป โทมัสสัน สร้างชื่อมาจากสโมสร โคช บีเค ก่อนจะย้ายมาเล่นใน เอเรเดวิซี ลีก ดัตซ์ กับ ฮีเรนวีน ซึ่งที่นี่เขาฟอร์มร้อนระอุมาก ทำไป 37 ประตู ในสองปีกับทีม จน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กวักมือมาเล่นในอังกฤษด้วยกันเถอะน้อง

ทุกอย่างน่าจะไปได้สวย แต่ “คุณหลอกดาว” ก็เกิดขึ้น เมื่อการไปเล่นในอังกฤษ ซึ่งเวลานั้น โทมัสสัน คาดว่าจะมาร่วมงานกับ อลัน เชียเรอร์ กลายเป็นว่า เชียเรอร์ บาดเจ็บหนักพักแทบทั้งฤดูกาลในปีนั้น โทมัสสัน ซึ่งวัยแค่ 20 ปี ต้องแทน ฮอตชอต ให้ได้ และแน่นอนเขาทำไม่สำเร็จ เจอทั้งแรงกดดันจากลีกที่ว่ายากอยู่แล้ว ไหนจะคามคาดหวังของแฟนบอล สรุป ปีเดียวเท่านั้น พอแล้ว อังกฤษ

เขาย้ายกลับไปเนเธอร์แลนด์ กับ เฟเยนูร์ด ร๊อตเตอร์ดัม ที่นั่น เขาได้แชมป์ลีกดัตซ์ และยิ่งใหญ่ไปอีกขั้นกับ การได้แชมป์ ยูฟ่า คัพ ในปี 2002 ก่อนจะหมดสัญญาและเลือกย้ายไปเล่นกับ เอซี มิลาน ทีมในเซเรีย อา ตลอดสามปีที่นั่น เขาไม่ใช่ นักเตะหลัก แต่เป็นสำรองทางเลือกแรกในแนวรุกของทีม ลงเล่นไปมากกว่า 100 เกม ในฐานะนักเตะทางเลือก แต่ก็ทำให้เขาได้ สคูเด๊ดโต้ มาหนึ่งสมัย พร้อมกับ แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกหนึ่งสมัย

บุนเดสลีกา อ้าแขนรับเขาต่อจาก มิลาน เมื่อ สตุ๊ทการ์ท ดึงเขามาร่วมงานด้วย แต่ก็น่าเสียดายที่เขาเล่นในเยอรมัน ได้เพียงหนึ่งปีครึ่งก็ต้องย้ายออก เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บส่งผลกับฟอร์มของเขาโดยตรง ทำให้เขาย้ายไปเล่นกับ บียาร์เรอัล ใน ลา ลีกา แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

สุดท้ายเขากลับมาที่ เฟเยนูร์ด อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่นักเตะหลักอีกแล้ว แต่ก็มาเพื่อสั่งลาการเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรที่เขาประสบความสำเร็ขมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตลอดการเล่นอาชีพของตนเอง โดยเขาเลิกเล่นเมื่ออายุ 34 ปี ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จในระยะหลัง นั่นคือ อาการบาดเจ็บ นั่นเอง

สองคนสุดท้าย

อาเบล ซาเวียร์ (เซเรีย อา / ลา ลีกา / พรีเมียร์ ลีก / บุนเดสลีกา)

หากไม่นับว่าไม่ได้ลงเล่นใน ลีก เอิง ซึ่งเรานับเป็นห้าลีกใหญ่ ชื่อของ อาเบล ซาเวียร์ ก็เป็นหนึ่งใน นักเตะ ที่โชกโชนกับการเล่นในหลายลีกชั้นนำของยุโรป

เขาเริ่มต้นจากทีมใน โปรตุเกส บ้านเกิดที่ชื่อว่า เอสเตรล่า ดา อมาโดร่า ก่อนย้ายไปเล่นกับ เบนฟิก้า หลังจากนั้น เซเรีย อา ก็ให้โอกาสเขามาเยือน กับสโมสร “ไก่แดนใต้” บารี่ ซึ่งเป็นการยืมตัวในระยะสั้น ก่อนที่จบการยืมตัว เขาจะย้ายไปเล่นใน ลา ลีกา สเปน กับ เรอัล โอเบียโด้ ซึ่งที่นั่นเขาทำผลงานได้น่าสนใจ และฟอร์มสวย จนทำให้ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ชวนเขาไปดู กังหันลม ที่ เนเธอร์แลนด์

ในปี 1999 เอฟเวอร์ตัน ดึงตัวเข้ามาร่วมงานด้วย และเขาลงเล่นกับทีมนาน 3 ปี ก่อนจะกลายเป็น ขบถในสายตาแฟนบอล เอฟเวอร์ตัน เมื่อเขาย้ายไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล ทีมร่วมเมือง แต่ก็อยู่ได้ไม่เต็มฤดูกาล เพราะโอกาสลงเล่นน้อย ทำให้เขาได้ไปเล่นในตุรกี กับสโมสร กาลาตาซาราย อย่างไรก็ตามเป็นอีกครั้งที่ การยืมตัวจบลงด้วยการไม่ได้ย้ายไปอย่างถาวร เขาเลือกเซ็นสัญญากับ ฮันโนเวอร์ 96 ในเยอรมัน ตามด้วย โรม่า หลังจากนั้นช่วงเวลาความฉิบหายวางป่วงก็เกิดขึ้น

ในปี 2005 เขาเซ็นสัญญากับ มิดเดิ้ลสโบรซ์ กลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้ง แต่เขากลับถูกตรวจพบสารกระตุ้น ทำให้เขาโดนแบนยาว 18 เดือนจากยูฟ่า และกลายเป็นนักเตะคนแรกที่โดนแบนจากการใช้สารกระตุ้น ซึ่งส่งผลให้เขาพลาดลงเล่นในเกม ยูฟ่า คัพ รอบชิงชนะเลิศในปี 2006 ไปโดยปริยาย ก่อนที่สุดท้ายแล้ว แม้จะกลับมาลงเล่นได้ แต่ความสนุกในการเล่นฟุตบอลมันก็แทบไม่เหลือแล้ว เขาเลือกย้ายไปเล่นฟุตบอลในสหรัฐอเมริกา กับ แอลเอ กาแล็คซี่ และตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2008

ปิแอร์ โวเม่ (เซเรีย อา / พรีเมียร์ ลีก / ลา ลีกา / บุนเดสลีกา)

กลายเป็น นักเตะจาก ทวีปแอฟริกา คนแรกที่ลงเล่นในลีกยุโรปแทบจะครบทุกลีกอีกคน โวเม่ แนวรับแคเมอรูน คนนี้เริ่มต้นระดับอาชีพกับสโมสร วิเชนซ่า ในเซเรีย อา อิตาลี ก่อนจะย้ายไปมาราธอนไปหลายทีมในอิตาลี จนมาตั้งหลักได้กับ โบโลญญ่า ซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็น ตัวหลักของทีม หลังจบฟุตบอลโลก 2002 ดเขาย้ายไปเล่นในอังกฤษ เป็นเวลาหนึ่งฤดูกาลกับ สโมสรฟูแล่ม ก่อนจะย้ายไปเล่นใน ลา ลีกา สเปน กับ เอสปันญ่อล อีกฤดูกาล

การกลับมาอิตาลี เกิดขึ้นหลังการเซ็นสัญญากับ เบรสชาเกิดขึ้น และเขาทำผลงานได้ดี บุญพาวาสนาส่ง ให้ อินเตอร์ มิลาน ให้โอกาสเขาไปร่วมงานด้วย แม้จะเป็นเพียงหนึ่งปี แต่เจ้าตัวก็ปลื้มมากที่ครั้งหนึ่งได้ลงเล่นในสโมสรใหญ่แห่งมิลาน แต่อาชีพก็ต้องเดินต่อ เขาขอย้ายทีมอีกครั้ง ในปี 2006 เขาย้ายไปเล่นในเยอรมัน กับ แวร์เดอร์ เบรเมน ตามด้วย เอฟซี โคโลญจน์ รวมแล้ว 5 ปี ในเยอรมัน

ท้ายอาชีพการเล่นฟุตบอล โวเม่ ย้ายไปเล่นกับ หลายสโมสรในหลายประเทศทั้ง ใน กาบอง แคเมอรูน รวมถึงในฝรั่งเศส แต่ไม่ได้ลงเล่นใน ลีก เอิง เพราะย้ายไปเล่นกับ เรสเนสซองต์ เดอ เอนกูมู สโมสรลีกล่างของประเทศ ก่อนที่สุดท้ายจะเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2016 กับสโมสร โรเย-โนยอง ในฝรั่งเศสนั่นเอง