ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

4 ปีชีวิตไม่แน่นอนของ “ดิ อ๊อกซ์”

     อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (27 ปี สัญญาถึงกลางปี 2023) กองกลางทีมชาติอังกฤษ ยังคงอยู่ในสถานการณ์แห่งการต่อสู้อย่างหนัก เพื่อกลับมาเอาชนะใจ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในการเรียกใช้งานเขาในการเป็นตัวจริงของทีมให้ได้อีกครั้ง

 

     ลิเวอร์พูล ซื้อตัวเขามาจาก อาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ในตลาดการซื้อขายเดือนสิงหาคม 2017 หลังจากที่เขา ปฏิเสธสัญญาใหม่กับ อาร์เซนอล และเลือก ลิเวอร์พูล เป็นสถานีฟุตบอลของเขา เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ ความสำเร็จที่เขารอคอย และมองว่า อาร์เซนอล ไม่สามารถมอบให้กับเขาได้

 

     มองย้อนไปจากวันแรกที่เขาย้ายมาสู่ ลิเวอร์พูล จนมาถึงวันนี้สามปีกว่าใกล้ครบปีที่ 4 ในอีกสองเดือนข้างหน้าแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาฝันเอาไว้ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากการเข้าชิงชนะเลิศสองครั้งในสี่ปี และพวกเขามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมในปีที่แล้ว กับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร (แชมป์ลีกภายใต้ชื่อ พรีเมียร์ ลีก)

 

มันเป็นแบบที่ฝันกับสโมสรที่เขาเลือก แต่มันไม่ใช่สำหรับเขาที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับมันแบบที่เขาต้องการ

ความโชคร้ายเดียวของทีม เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงบริเวณหัวเข่า

     25 เมษายน 2018 เกมรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก เกมแรกบนชัยชนะเหนือ อาแอส โรม่า 5-2 แชมเบอร์เลน คือความโชคร้ายเดียวของทีม เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงบริเวณหัวเข่า และนั่นทำให้เขาพลาด แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ และพลาดฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย และการพักยาวนานถึง 12 เดือนของเขาก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อการผ่าตัดหัวเข่าผ่านพ้นไป

 

     “นั่นคือสิ่งที่ผมพลาดไป และมันพลาดมากกว่านั้นอีกนะในเรื่องของชีวิต ระหว่าง 12 เดือนนั้น ผมเจอกับอาการบาดเจ็บ อาการบาดเจ็บ และ อาการบาดเจ็บ ผมจำได้เลยว่า ตอนแรกที่บาดเจ็บ ผมคิดว่าผมจะต้องพักหลายสัปดาห์ หรือไม่ก็นานเป็นเดือน”

 

     เอ็นไขว้หัวเข่าด้านหน้าของเขาไม่เพียงแค่ฉีก แต่มันคือเส้นเอ้นในส่วนอื่น ลามไปถึงเอ็นร้อยหวายก็ได้รับผลกระทบในครั้งนั้นด้วย นั่นคือสิ่งที่แพทย์ระบุอาการบาดเจ็บของเขาออกมา มันคือข่าวร้ายกับอาการบาดเจ็บครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา

 

     เหมือนกับ นักกีฬา ทุกประเภท ยิ่งกับ นักฟุตบอลอาชีพ หัวเข่า หรือว่า ข้อเท้า เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการเล่นฟุตบอล หากมีปัญหาบาดเจ็บในส่วนเหล่านี้ขั้นรุนแรง สิ่งแรกที่ต้องทำหลังการประเมินอาการจนแน่ชัด และผ่าตัดแล้วคือ “ห้ามรีบร้อนกลับมาลงเล่น” คุณต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการฟื้นฟูสภาพร่างกาย เข้าสู่การรับการกายภาพบำบัด และนั่นคือวันแล้ววันเล่าที่ต้องผ่านการเข้ายิม เพื่อให้เส้นเอ็นหัวเข่า หรือข้อเท้า มันฟื้นฟูตามธรรมชาติของมัน ท่ามกลางบรรยากาศที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ลงสนามแข่งขัน ในวันที่ชนะ ในวันที่แพ้ แต่คนเหล่านั้นได้มีโอกาสลงไปเล่น แต่สำหรับคนบาดเจ็บ ใจอยากไปแค่ไหน ร่างกายก็ไม่พร้อมให้มากกว่าการเป็นเพียงผู้ชมข้างสนาม

ฤดูกาล 2018-2019 ลิเวอร์พูล กลับมาลงสนามด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม

     “ผมอยู่ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศที่ เคียฟ ด้วย หลังจากนั้นพอจบเกม เราทุกคนกลับมาที่อังกฤษ และก็แยกย้ายกันไป บางคนไปฟุตบอลโลก บางคนก็เข้าสู่ช่วงพักผ่อน แต่สำหรับผมคือการ ว่ายน้ำเบา ๆ ออกกำลังกายภาพบำบัด ที่สนามซ้อมของลิเวอร์พูล”

 

 

     ฤดูกาล 2018-2019 ลิเวอร์พูล กลับมาลงสนามด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ส่วนแชมเบอร์เลน หลังจากผ่าน 16 เดือนแห่งการรอคอย เขากลับมาอีกครั้งในเดือนเมษายน 2019 ในเกมพบกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ในฐานะตัวสำรอง ก่อนที่ ลิเวอร์พูลจะเข้าขิงแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง และครั้งนี้ แชมเบอร์เลน ได้ที่นั่งใกล้กว่าปีที่แล้ว เมื่อเป็นตัวสำรองในเกมนั้น แต่ไม่ได้ลงสนาม ซึ่ง ลิเวอร์พูล สมหวังกับชัยชนะเหนือสเปอร์ส  

 

     ฤดูกาล 2019-2020 ฤดูกาลใหม่เริ่มต้นพร้อมกับการต่อสัญญาใหม่ของเขาไปจนถึง 2023 เขากลับมาพร้อมกับสภาพร่างกายที่กลับมาแข็งแรง ทุกอย่างน่าจะไปได้ดี เขามีส่วนร่วมกับทีมต่อเนื่อง แม้จะไม่ใช่ตัวจริงถาวรก็ตาม อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของ​โควิด-19 ทำให้ แชมเบอร์เลน ต้องหยุดลงเล่นไปสามเดือนอย่างไม่มีทางเลือก เช่นเดียวกับที่ ลิเวอร์พูล กลายเป็นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ที่ต้องรอคอยมานานกว่าเดิม พร้อมการชูถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ในแบบไม่มีแฟนบอลเข้าสนามอย่างน่าเสียดาย แต่แล้วพอเข้าสู่ฤดูกาล 2020-2021 อาการบาดเจ็บหัวเข่าก็กลับมาหลอนเขาอีกครั้ง

 

     แชมเบอร์เลน หัวเข่าได้รับบาดเจ็บในช่วงเดือนกันยายน ทำให้เขาพลาด 11 เกมแรกในลีก และต้องใช้เวลาสามเดือนกว่าจะกลับมาลงสนามเกมแรกในเดือนธันวาคม 2020 แต่คราวนี้ มันต่างออกไป แม้จะกลับมาได้อีกครั้ง แต่ โอกาสในการลงสนามของเขากลับไม่เหมือนเดิม

 

     แชมเบอร์เลน ลงเล่นตัวจริงไปเพียงสองเกมเท่านั้นในทุกรายการแข่งขัน และมันไม่แปลกเลยถ้าเขาจะมีประตูเดียวในฤดูกาลนี้ และมีข่าวกับการย้ายทีมหลายครั้งในช่วงฤดูกาลที่วุ่นวายกับการเล่น ๆ หยุด ๆ และต้องเลื่อนเกมบ้างจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่หมดสิ้นแบบ 100 %

ผมมีความสุขดีกับการเล่นให้ ลิเวอร์พูล

     อย่างไรก็ตาม แชมเบอร์เลน กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเพียงเขาคนเดียวที่ตัดสินใจ อนาคตของตนเอง ด้วยผลงานในฤดูกาลนี้ที่หลุดตัวจริงของทีมไปอย่างถาวร ทำให้โอกาสในการมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปเล่นฟุตบอลยูโร 2020 แทบจะหมดหวังไปแล้ว และจะเป็นการพลาดทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติอีกครั้งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สามติดต่อกัน นับจาก ยูโร 2016 เป็นต้นมา

 

     แต่นั่นคงไม่เท่ากับ โอกาสในทีมที่ลดลงเรื่อย ๆ โดยตำแหน่งกองกลางทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูล ไม่นับดาวรุ่งของทีมแล้ว เขาเป็นคนที่ลงเล่นตัวจริงน้อยที่สุดเพียงสองเกม ตรงกันข้ามกับ ดาวรุ่งดวงใหม่อย่าง เคอร์ติส โจนส์ ที่ปีนี้ได้โอกาสแบบเต็มตัวกับการลงเล่นตัวจริงในลีกถึง 13 เกมด้วยกัน หรือแม้กระทั่ง นาบี เกอิต้า ที่ผลงานน่าผิดหวังอีกคน ก็ยังลงเล่นมากกว่าเขาในฐานะตัวจริงของทีม ซึ่งนั่นทำให้ แชมเบอร์เลน อาจต้องพิจารณาอนาคตตนเองใหม่อีกครั้ง หากยังคงคิดถึงการลงเล่นต่อเนื่อง หรือความฝันกับการลงเล่นกับทีมชาติอังกฤษอีกสักครั้ง

 

     “ผมมีความสุขดีกับการเล่นให้ ลิเวอร์พูล ผมอยากทำสิ่งนี้ สิ่งที่ผมทำได้คือผมอยากทำให้แน่ใจว่า ตัวเอง ซ้อมหนักมากพอ ส่วนที่เหลือคือการตัดสินใจของผู้จัดการทีม มี นักเตะหลายคนตำแหน่งเดียวกับผม และเมื่อโอกาสมาถึง ผมต้องทำผลงานให้ดีให้ได้”

 

     “ผมผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมามากมาย ดังนั้นเวลานี้ แค่สภาพร่างกายยังฟิต และพร้อมลงเล่นมันก็คือเรื่องที่ดีมากสำหรับผมแล้ว เป้าหมายคือให้ลิเวอร์พูล กลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง”

 

     แต่จบฤดูกาลนี้ ความสุขกับการเล่นให้ ลิเวอร์พูล จะมากพอให้เขาอยู่กับทีมต่อไป หรือว่าจะเลือกมองหาเส้นทางใหม่ ให้กับตนเองอีกสักครั้งแบบที่เคยทำมาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน

 

สถิติการลงเล่นกับลิเวอร์พูลของ “ดิ อ๊อกซ์”

 

2017-2018: 46 เกม 5 ประตู 8 แอตซิสต์

2018-2019: 2 เกม

2019-2020: 43 เกม 8 ประตู 2 แอตซิสต์

2020-2021: 16 เกม 1 ประตู 1 แอตซิสต์

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้