ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

12 ปีที่ห่างหายไปของ “มาร์ค วิดูก้า”

     เรื่องราวของ มาร์ค วิดูก้า (45 ปี) กับเรื่องราวของเขาในวงการฟุตบอลสิ้นสุดลงในปี 2009 หลังการตัดสินใจอำลาวงการฟุตบอล ที่เขาเคยสร้างชื่อกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไว้อย่างมากมาย กับ 162 เกม 70 ประตู ใน 4 ฤดูกาลกับทีม

 

     หลังการเลิกเล่น วิดูก้า ไม่ได้กลับไปยังประเทศออสเตรเลีย ประเทศที่เขาสร้างชื่อเสียงในการพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วในปี 2006 แต่เขาเลือกกลับไปยังประเทศโครเอเชีย ประเทศที่พ่อของเขาเกิด ก่อนย้ายมาตั้งรกรากในออสเตรเลียเลย ก่อนที่จะผ่านการเล่นฟุตบอลที่นี่มาแล้ว กับสโมสร โครเอเชีย ซาเกร็บ (ปัจจุบันมีชื่อว่า ดินาโม ซาเกร็บ) ก่อนที่จะก้าวมาเล่นในสกอตแลนด์ และ อังกฤษ จนกระทั่งเลิกเล่น และเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ กับครอบครัว เขาไม่ได้กลับมายังวงการฟุตบอลอีกเลย แม้กระทั่งในส่วนของวงการสื่อ

 

     นั่นคือสิ่งที่ผู้เขียนเคยตามหาข้อมูลของอดีตกองหน้ากรามใหญ่ทิ้งเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเก็บตัวจนกระทั่ง ผ่านไป 12 ปี วิดูก้า ออกสื่ออีกครั้ง ผ่านทาง เดลีเมล์ สื่อในประเทศอังกฤษ และเราไม่ยอมพลาดมาอัพเดตกันหน่อยว่า อดีตกองหน้าออสซี่รายนี้ เป็นอย่างไรกันบ้าง

มันมีข่าวออกมาว่าผมกับ ลูก้า โมดริช เป็นญาติกัน มันไม่จริงเลย

     “มันมีข่าวออกมาว่าผมกับ ลูก้า โมดริช เป็นญาติกัน มันไม่จริงเลย ผมกับเขาไม่ใช่ญาติกันโดยตรง แต่เขาแต่งงานกับญาติของผม เรื่องจริงมันเป็นแบบนั้น และเขาเป็นคนที่ดีมาก เราเป็นเพื่อนกัน” วิดูก้า กล่าวเกี่ยวกับข่าวที่เคยออกมาเมื่อหลายปีก่อน

 

     แม้ว่าในยุคนี้เราจะมีสังคมออนไลน์หลายช่องทาง รวมถึงแม้กระทั่งการมีวิธีการติดตามตัวหลายรูปแบบ แต่การที่ “ใครสักคน” ตั้งใจเร้นกายหายไปจากสังคม มันก็ยังคงเป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะมีใครตามหาได้พบ วิดูก้า ก็เป็นเช่นนั้น เมื่อเขาเลือกจะเก็บตัวใช้ชีวิตอยู่ทางตอนเหนือของกรุงซาเกร็บ ดินแดนที่เต็มไปด้วยป่า และมีจำนวนประชากรไม่มากนัก บ้านของเขาอยู่บนภูเขา และเปิดเป็นร้านกาแฟขนาดเล็กที่นั่น

 

     “คนโครแอต เป็นคนที่ค่อนข้างจะสุดโต่งในความคิดของผม ส่วนคนออสเตรเลีย จะค่อนข้างเรียบง่าย และไม่ตื่นเต้นกับอะไรมากจนเกินไป อย่างเช่นฟุตบอล ที่โครเอเชีย วันหนึ่งคุณอาจเป็น พระเจ้า สำหรับพวกเขา วันต่อมา พวกเขาอาจอยากเผาคุณให้ตายไปเลย ถ้าฟอร์มทีมมันแย่มาก นี่คือความต่าง ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการใช้ชีวิตไม่น้อย และนั่นทำให้ผมเลือกย้ายออกจากทีมสมัยเป็นนักเตะ”

 

     “ผมเติบโตมาจากสังคมที่รอบข้างมีเรื่องเงิน เรื่องเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์ต่อกันอยู่เต็มไปหมด เช่นเดียวกับที่ตัวเองยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองศรัทธา และเชื่อมั่นเท่านั้น”

 

     ด้วยภาพลักษณ์ของความเป็น ซูเปอร์สตาร์ดังของพรีเมียร์ ลีก และออสเตรเลีย แน่นอนว่าเขาไม่มีปัญหาแน่ หากเลือกจะเข้าวงการฟุตบอลในแง่ใดด้านหนึ่ง แต่กลับทำในสิ่งตรงข้ามด้วยการทิ้งมันไว้เบื้องหลัง

 

     “ผมไม่คิดว่าตัวเองหลงไปกับเรื่องเงินทอง หรือว่าชื่อเสียงอะไรทั้งนั้น ผมไม่ได้อยากได้มัน เงินคือสิ่งจำเป็นในชีวิต ผมหามันได้จากการเล่นฟุตบอล และนั่นคือผลพลอยได้จากกการทำงาน”

“ความไม่แน่นอนคือความไม่แน่นอน”

     วิดูก้า จัดว่าเป็นคนหัวเก่าคนหนึ่ง และมีความคิดในเรื่องของฟุตบอล คือสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องของชื่อเสียง เงินทองใด ครั้งหนึ่งเขาเคยวิจารณ์ นักเตะ ออสซี่หลายคนเกี่ยวกับการทำงานที่ไม่ได้ใส่ใจผลงานในสนามเท่าที่ควร แต่แคร์เพียงว่าจะได้เงิน และประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ซึ่งนั่นทำให้เขาโดนหลายคนเกลียดขึ้หน้าอยู่ไม่น้อย และกาลเวลาไม่ช่วยให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไรนัก ก่อนจะเลือกหาความสงบด้วยการย้ายมาอยู่ในโครเอเชีย พร้อมกับครอบครัว ซึ่งเขามีลูกสามคน ทำไมต้องเป็นที่โครเอเชีย ไม่ใช่ ออสเตรเลีย ประเทศที่เขาเติบโตมา หรือว่าในอังกฤษ ที่เขาลงเล่นยาวนานหลายปี มาเลือกเปิดร้านกาแฟที่ลูกค้าประจำหนึ่งในนั้นคือ โกรัน อิวานิเซวิช ยอดนักเทนนิสระดับแชมป์วิมเบิลดัน คือหนึ่งในลูกค้าประจำของร้านเขา

 

     “การมาอยู่ที่นี่ มันเริ่มจากตอนอายุ 19 ผมเซ็นสัญญาย้ายมาเล่นกับ ซาเกร็บ และผมหลงรักไลฟ์สไตล์ที่นี่มาก ทำงานเสร็จ เลิกงานออกมาหาร้านกาแฟสักร้านนั่งดื่มพูดคุยกับคน มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ผมประทับใจวิถีชีวิตแบบนี้มาก ผมไม่อยากวุ่นวายกับใคร ผมแค่อยากหากาแฟสักแก้ว นั่งลงอย่างสบายใจ และดื่มมัน พอเลิกเล่นผมก็ย้ายมาที่นี่ถาวร เปิดร้านกาแฟในสิ่งที่ผมอยากทำมันก็เท่านั้น”

 

     ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยชีวิตกำลังลงตัว แต่แล้ว “ความไม่แน่นอนคือความไม่แน่นอน” ในเดือนมีนาคม 2020 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.5 ริกเตอร์ ในกรุงซาเกร็บ  ที่ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด

 

     “ผมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย โชคดีบนโชคร้ายคือ มันเกิดขึ้นตอนเช้ามาก และอยู่ในช่วงการล๊อคดาวน์ของ โควิด-19 ทำให้ไม่มีผู้คนออกมาข้างนอกมากนัก ไม่อย่างนั้นทุกอย่างคงวุ่นวายหนักยิ่งกว่านี้หลายเท่า”

 

     “ผมจำได้ว่า ผมตื่นขึ้น และพาครอบครัววิ่งออกมานอกบ้านทั้งในชุดนอน และเวลานั้นหิมะตก สิ่งที่เราทำได้คือหลบอยู่ในรถยนต์หลายชั่วโมง เพราะเรากลัวอาฟเตอร์ช๊อกจะเกิดขึ้น เวลานั้นผมรู้ชัดเจนเลยว่า เราคือสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เท่านั้นเทียบอะไรไม่ได้เลยกับธรรมชาติ”

การลงเล่นในโครเอเชียของ วิดูก้า

     โครเอเชีย บ้านเกิดของพ่อเขาเต็มไปด้วยเรื่องราวของสงคราม วิดูก้า เติบโตมาพร้อมกับเรื่องราวของสงครามประกาศอิสรภาพของโครเอเชีย แม้เขาจะไม่ได้อยู่ในสงคราม แต่ท้ายที่สุดแล้วในปี 1995 เขาก็ย้ายทีมมาเล่นกับ โครเอเชีย ซาเกร็บ ในปี 1995 และทำให้เขาได้เห็น “ปลายยุคสงคราม” ที่แสนเจ็บปวด

 

     “เพื่อนร่วมทีมผมเสียชีวิตจากการต้องไปซ้อมรบ และจากไปอย่างน่าอนาถ ผมเคยเดินอยู่ในเมือง และได้ยินเสียงไซเรนดังไปทั่วเมือง ทุกคนวิ่งหนีกระจัดกระจายไปทั่วเมือง แม้กระทั่งคนขับรถยังต้องทิ้งรถและหาทางเอาตัวรอดกันหมด”

 

     การลงเล่นในโครเอเชียของ วิดูก้า คว้าแชมป์มากมายตลอด 4 ปี ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นกับ กลาสโกว์ เซลติก ในปี 1998 ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในปี 2000 และที่เหลือจากนั้นคือ เรื่องราวมากมายของ ลีดส์ ยูไนเต็ด และวิดูก้า กับเส้นทางแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกของสโมสร และการล่มสลายของสโมสร “ยูงทอง” จากปัญหาการเงินจนทีมต้องตกชั้นไปนาน 16 ปี ก่อนกลับมาได้ในปี 2020 ที่ผ่านมา

 

     “เราไม่เคยรับรู้อะไรมาก่อนเกี่ยวกับปัญหาทางการเงิน แต่แล้วต่อมา โจนาธาน วู้ดเกต ก็โดนขายออกจากทีมไป หลังจากนั้นก็มีปัญหามากมายตามมา ส่วนผมลงเล่นเกมสุดท้ายกับ ลีดส์ มันจบลงด้วยการโดนไล่ออก มันคือหายนะที่ทุกอย่างมันเริ่มต้นหลังจากการที่ เดวิด โอเลียรี่ โดนไล่ออก เราสูญเสียความเป็นทีม และทุกอย่างจบลง”

 

     วิดูก้า ถูกปล่อยไปเล่นกับ มิดเดิ้ลสโบรซ์ ตามด้วยนิวคาสเซิ่ล และประกาศเลิกเล่นตอนอายุ 33 ซึ่งเขาเปิดเผยว่า เขาเกือบตัดสินใจเล่นต่อ เมื่อ รอย ฮอดจ์สัน เข้ามาเจรจาชวนเขาย้ายไปเล่นที่ ฟูแล่ม แต่สุดท้ายแล้วเขาเลือกที่จะจบทุกอย่างลงเพียงเท่านี้

 

     “รอยมาคุยกับผมแล้วบอกว่า เขาอยากได้ผมไปร่วมทีม และพร้อมกับเสื้อหมายเลข 9 ของทีม ผมจะเป็นกองหน้าคนสำคัญของทีม ผมดีใจมาก และเป็นเกียรติที่ได้รับโอกาส แต่ผมขอเลือกพอแค่นี้ดีกว่า ทุกอย่างมันสุดทางแล้วสำหรับความคิดผม ผมรู้สึกว่าถ้ายังเล่นต่อไป ผมต้องทุเรศตัวเองแน่ ผมไม่อยากหลอกตัวเองว่ายังเหมือนเดิม และไม่อยากให้คนจำผมว่าผมเล่นต่อไป เพราะผมแค่ต้องการเงิน”

 

     “ผ่านมาหลายปี ผมคิดถึงฟุตบอลบ้าง แต่ผมก็มีความสุขดี ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบอย่างที่ต้องการ กลายเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เปิดร้านกาแฟบนยอดเขา เล่นกีตาร์ และมีวงดนตรีกับลูกของผม”

 

นี่ล่ะ 12 ปีกับชีวิตที่ไม่อยู่ในแสงไฟ ชีวิตที่เขาเลือกเอง…มาร์ค วิดูก้า

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้