ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

ตอนเริ่มไม่สำคัญเท่าตอนจบ กับ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ Part 1

     เอมิเลียโน มาร์ติเนซ นายทวารชาวอาร์เจนติน่า กำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตของตนเอง หลังการย้ายทีมมูลค่า 20 ล้านปอนด์ สู่ แอสตัน วิลล่า ของเขา คือทางเลือกที่ถูกต้อง เมื่อมันทำให้เขากลายเป็น นายทวาร ตัวจริง ของสโมสรระดับพรีเมียร์ ลีก แบบถาวร เป็นครั้งแรกในชีวิต

     จากเด็กปั้นของสโมสร อินดิเพนเดนเต้ วัยเพียง 16 ปี ข้ามทวีปมาเล่นฟุตบอลในอังกฤษกับ อาร์เซนอล ในฐานะของ นักเตะ เยาวชน ก่อนก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ตอนอายุ 20 ปี เท่านั้น

     การเป็น นายทวาร สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่เรื่องของการซ้อม ไม่ใช่เรื่องของความพยายาม แต่มันคือเรื่องของ “โอกาส” เพราะตำแหน่งนี้ มีได้เพียงคนเดียวต่อหนึ่งเกม เป็นตำแหน่งที่ ผู้จัดการทีมทุกคน ต้องการความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงนายทวารในแต่ละเกม แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลย นอกจากมีปัญหาบาดเจ็บ หรือว่า ติดโทษแบน เท่านั้น และนั่นคือการต่อสู้ “สนามรบแรก” ของมาร์ติเนซ และนายทวารสำรองทุกคน ต้องเผชิญ

นักเตะ “ยืมตัว” มากถึง 6 สโมสร

     มาร์ติเนซ กลายเป็น นักเตะ “ยืมตัว” มากถึง 6 สโมสร เขาผ่านการเล่นมาแล้วทั้งในลีกล่างของ อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น อ๊อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด, เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, ร็อทเธอแฮม ยูไนเต็ด, วูลฟ์สแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส (สมัยอยู่ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ) และ เรดดิ้ง นอกจากนี้ ยังเคยลงเล่นกับ เคตาเฟ่ ในลา ลีกา สเปน มาแล้ว

     ว่ากันตามปกติแล้ว นายทวารที่ โปรไฟล์แบบนี้ ส่วนมากแทบจะไม่มีอนาคตใน สโมสรระดับชั้นนำอีกแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ มาร์ติเนซ เมื่อเขา ยืนยันว่า เขาจะกลับมา อาร์เซนอล ทุกครั้ง เพื่อพิสูจน์ ตัวเองว่าเขาดีพอ

“ผมบอกกับคนในครอบครัวว่า ผมจะพยายามอย่างหนัก เพื่อเป็นนายทวารมือหนึ่งของอาร์เซนอล ให้ได้” มาร์ติเนซ กล่าวในช่วงปี 2019

     10 ปี กับ อาร์เซนอล 8 ฤดูกาลกับสโมสรในทีมชุดใหญ่ มาร์ติเนซ เฝ้าฝันถึงการเป็นมือหนึ่งของทีมมาตลอด ได้เห็น เยนส์ เลห์มันน์, มานูเอล อัลมูเนีย, วอยเช็ค เชสนี่, ลูคาสซ์ ฟาเบียนสกี้, ดาวิด ออสปิน่า, ปีเตอร์ เช็ก จนมาถึง แบนด์ เลโน่ ก้าวขึ้นมาเฝ้าเสา เป็นตัวจริงให้ทีม ส่วนเขาไม่ข้างสนาม ก็วนเวียนกับการยืมตัว

และในที่สุดวันที่เขารอก็มาถึง

     ในฤดูกาล 2019-2020 มาร์ติเนซ ยืนยันหนักแน่นในช่วงต้นฤดูกาล กับ อูไน อเมรี่ ว่าเขาจะไม่ขอย้ายทีมแบบยืมตัวอีกต่อไปแล้ว เขาต้องการลงเล่นกับ อาร์เซนอล เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงกับ แบนด์ เลโน่ เท่านั้น พร้อมกับ “ท้าทาย” เพื่อนร่วมอาชีพแบบเต็มตัว ด้วยการแสดงผลงานในช่วงปรีซีซั่นได้ดีมาก ก่อนที่จะได้รับโอกาสในการลงเล่นฟุตบอลถ้วยอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของสโมสรที่เลือกให้ เลโน่ เป็นนายทวารตัวหลักในเกม พรีเมียร์ ลีก ส่วน มาร์ติเนซ หรือคนอื่นจะมีโอกาสในฟุตบอลถ้วยเท่านั้น

     อย่างไรก็ตามการระบาดของ โควิด-19 ทำให้ฤดูกาลที่เพิ่งจบไปยาวนานมากกว่าปกติถึง 3 เดือน และเมื่อกลับมาลงเล่นอีกครั้ง อาร์เซนอล ก็ต้องโชคร้าย เสีย แบนด์ เลโน่ นายทวารมือหนึ่งจากอาการบาดเจ็บหนัก และต้องพักยาวจนจบฤดูกาล

     มาร์ติเนซ ลงทำหน้าที่แทนในทุกเกมที่เหลือของฤดูกาลรวม 11 เกม มีส่วนสำคัญในการช่วยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยที่ 14 ของสโมสร โดย 5 จาก 11 เกม จบด้วยการทำคลีนชีตของเขาด้วย

     “มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก และ อารมณ์ร่วม มันเกิดขึ้นตั้งแต่ในรอบรองชนะเลิศที่เราเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผมคิดว่าพวกเขาคือหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในยุโรป และมากกว่านั้นคือ เรากำลังเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และผมกำลังจะได้เล่นเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศใน เวมบลีย์”

     “ผมรอคอยวันเวลาแบบนี้มาถึง 10 ปี และเมื่อนกหวีดสิ้นสุดเกมจบลง เรื่องราวแห่งความพยายามทั้งหมดก็หลั่งไหลเข้ามาในสมอง ผมคิดถึง ครอบครัว คิดถึงแฟน อยากให้พวกเขามาดูผมในรอบชิงชนะเลิศด้วยกัน น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถมาได้ เนื่องจากการระบาดของ​โควิด-19 ไม่ต่างจากแฟนบอลอีกจำนานมาก ที่ชมเกมนี้ผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์”

     “พ่อของผม เป็นคนที่สนับสนุนผมมาตลอดชีวิต ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ผมทราบว่า ผมจะได้ลงเล่นในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก (พบกับ อันเดอร์เลชท์) พ่อของผม บินจาก อาร์เจนติน่า ยาวนานถึง 27 ชั่วโมง เพื่อมาดูผมลงเล่นในลอนดอน และเขาร้องไห้ตลอดเกมด้วยความภูมิใจ”

“ผมจากบ้านมาไกล และเรามาหากันไม่ได้ เพราะล็อคดาวน์ แต่ผมจะคิดถึงพวกเขาทุกคนในเกมรอบชิงชนะเลิศ”

     หลังเกมในรอบชิงชนะเลิศจบลง ภาพจำหนึ่งของ เอฟเอ คัพ เกมที่ไม่มีผู้ชมเข้าชมเลย นอกจากนักเตะ และทีมงาน จบลงด้วยคราบน้ำตาของ มาร์ติเนซ ที่ไหลอาบแก้ม กับการวิดีโอคอลทางไกล หาพ่อและคนในครอบครัวของเขา เป็นภาพประทับใจของ ชัยชนะ ตอบแทนความพยายาม

“ข้างสนาม” ไม่ใช่ที่สำหรับเขา

     ณ.เวลานั้น เขาไมได้เป็นแค่นายทวาร สำรอง ที่มีโชคได้รับโอกาส แต่เขากลายเป็น นายทวารมือหนึ่งของสโมสร ทีได้พิสูจน์ตัวเองในเวทีใหญ่ และพาทีมคว้าแชมป์กลับบ้าน

     “ข้างสนาม” ไม่ใช่ที่สำหรับเขา และเขาก็ไม่ต้องการมันอีกต่อไป เป้าหมายของเขาคือ มือหนึ่ง เท่านั้น และผลงานของเขาก็พร้อมจะทำให้เขาได้ในที่สิ่งที่เขาสมควรได้รับ และการตัดสินใจครั้งใหญ่ หลังจบฤดูกาลนั้น ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตเขาไปตลอดกาล

     เคยมีคนพูดไว้ว่า ชีวิตคนเราเริ่มต้นที่ชีวิต 60 กับช่วงเวลาที่ผ่านประสบการณ์หล่อหลอม ทั้งเรื่องราวที่ดี และแย่ ปะปนกันไปเพื่อให้เราได้ “เข้าใจโลก” อย่างแท้จริง แต่สำหรับ นายทวารหนุ่ม อาร์เจนไตน์ คนนี้ ชีวิตการเป็น นักทวารอาชีพ แม้จะเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 20 ปี แต่ถึงวันนี้ 28 ปี ชีวิตการเป็น นายทวารอาชีพ “ตัวจริง” ของเขาเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

ใช่! มันยังเพิ่งเริ่มเท่านั้น!!

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้