เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน…กับ แดนนี่ อิงค์ส

เรื่องราวของ วงการฟุตบอล ในฤดูกาล 2020-2021 อะไรที่ไม่เคยเห็น อะไรที่ว่าจะไม่เกิด ก็เกิดขึ้นได้เสมอ การเข้ามาของโควิด-19 ทำให้วิถี “New Normal” สร้างความเจ็บปวด วุ่นวายให้กับทุกสโมสร โดยเฉพาะเรื่องของ การเงิน ภายในสโมสร และเรื่องที่เราจะมาพูดคุยกันในวันนี้

“การต่อสัญญาใหม่”

แดนนี่ อิงค์ส (อังกฤษ 28 ปี สัญญาถึงกลางปี 2022) กองหน้าดีกรีทีมชาติ กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง เหมือนสมัยที่ลงเล่นกับ เบิร์นลีย์ ก่อนที่จะย้ายมาร่วมงานกับ ลิเวอร์พูล แบบไม่มีค่าตัว ก่อนจะเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก กับปัญหาบาดเจ็บอย่างหนัก และต้องพักยาว ทำให้ 3 ฤดูกาลของเขากับทีมลงเล่นไปเพียง 25 เกมเท่านั้น

กับ “นักบุญแดนใต้” เซาธ์แธมป์ตัน เขาคือ นักเตะ ตัวหลักของสโมสรมาอย่างต่อเนื่อง นับจากย้ายมาแบบยืมตัวในปี 2018 ก่อนเซ็นสัญญาถาวรในปีต่อมา ถึงวันนี้เขาลงเล่นกับทีมไปแล้ว 81 เกม ทำไป 41 ประตู ค่าเฉลี่ยมีหนึ่งประตูทุกสองเกม ผลงานชัดเจนโดดเด่น และนั่นนำมาซึ่งความพยายามในการต่อสัญญาใหม่ของสโมสร

การสูญเสียรายได้ ช่วงวิกฤต โควิด-19

“เราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เหมือนกับที่ทุกสโมสรได้เจอ นั่นคือการสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาลไป ในช่วงวิกฤตการระบาดของ โควิด-19 เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาก้าวข้ามความยากลำบากนี้ ซึ่งเราสามารถทำได้เพียงสิ่งที่เราสามารถทำได้ และอะไรที่ปลอดภัยสำหรับทีม ผมคิดว่า แดนนี่ แสดงให้ทั้งสโมสร เห็นแล้วว่าเขาอยากอยู่กับทีมต่อไป และสำหรับเราเขาคือ นักเตะ คนสำคัญของทีม”

“สิ่งที่เราหวังเอาไว้คือ เราจะสามารถปิดการเจรจา และตกลงกับเขาได้โดยเร็ว แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว การเซ็นสัญญาไม่เกิดขึ้น ชีวิตก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป สโมสรก็จะหาทางออก แต่ตอนนี้ผมหวังว่า อิงคส์ จะเป็น นักเตะ ของเราต่อไปในอินาคต”

ความพยายามในการต่อสัญญาใหม่ของ อิงคส์ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งหรือสองเดือนที่ผ่านมา แต่เป็นหนึ่งฤดูกาลเต็มที่ พวกเขาพยายามที่จะหาข้อตกลงร่วมกันกับ นักเตะ วัย 28 ปี คนนี้ หลังจากที่ อิงค์ส ผลงานสุดยอด ทำคนเดียว 25 ประตูในทุกรายการช่วยให้ทีม อยู่รอดปลอดภัยในอันดับที่ 11 ของตาราง

การเจรจาล่าช้า…

อิงค์ส เป็นหนึ่งใน นักเตะ ที่มีเอเยนต์ส่วนตัว เป็นผู้ดูแล และจัดการเรื่องเกี่ยวกับ ผลประโยชน์ของเขาทั้งหมด โดย อิงค์ส ใช้บริการ เอเยนต์ที่ชื่อว่า “ซอคเกอร์ทาเลนต์” บริษัทเอเยนต์ ซึ่งมี นักเตะ หลายคนใช้บริการ โดยส่วนมากจะเป็น นักเตะ ระดับทีมกลางตารางไม่ว่าจะเป็น ชาร์ลี ออสติน, เปโดร เลออ รวมถึง อินากิ วิลเลี่ยมส์ หัวหอกฟอร์มดี ของ แอตเลติก บิลเบา เป็นต้น และ ดีลสัญญาใหม่ของ อิงค์ส เขาก็ให้เป็นหน้าที่ เอเยนต์ ดูแลจัดการเดินเรื่องเจรจาให้เลย

ตามรายงานจากสื่อในอังกฤษ มีการระบุว่า เซาธ์แธมป์ตัน ไม่มีปัญหาในเรื่องของการเพิ่มค่าแรงให้กับ นักเตะ ข้อเสนอของพวกเขา พร้อมที่จะทำให้ อิงค์ส กลายเป็น นักเตะ ค่าเหนื่อยแพงที่สุดของสโมสร สมกับฟอร์มที่ร้อนแรงของเขา ซึ่งจะมากกว่าที่ เฟรเซอร์ ฟอสเตอร์ ได้รับ แถมระยะหลัง ฟอสเตอร์ หลุดจากทีมตัวจริงไปหลายเกมในฤดูกาลนี้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญในเรื่องของการเซ็นสัญญาใหม่

“เงินมากไม่ได้สำคัญเท่ากับ โอกาสในการลงเล่นกับสโมสรระดับชั้นนำ”

อิงค์ส มีความปรารถนา ในการกลับไปพิสูจน์ตัวเองอีกสักครั้ง กับสโมสรระดับชั้นนำ และการลงเล่นในเกมฟุตบอลยุโรป อีกสักครั้ง เมื่อที่เคยได้สัมผัสมาแล้วสมัยเล่นกับ ลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตามช่วงเวลากับ “หงส์แดง” อิงค์ส บาดเจ็บบ่อยมากจนสุดท้ายแล้ว เขาเคยลงสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเพียง 4 เกม แถมรวมเวลาในสนามรวมทั้งสิ้น 54 นาทีเท่านั้น นั่นคือ ความคาใจ ของเขา

การต่อสัญญาใหม่บนวัย 28 ปี จะทำให้เขามีค่าแรงที่มากขึ้น แต่โอกาสก็จะน้อยลงไปด้วย หากมีความสนใจจากเหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่ของลีก แต่ดันมี “สัญญา” คือ กำแพงที่มาขวางกั้นการย้ายทีม และนั่นทำให้การเจรจาสัญญาใหม่ของเขาไม่คืบหน้า

ทุกวันนี้ การเซ็นสัญญา นักเตะ อาชีพ มีหลายรูปแบบ ทั้งการเซ็นสัญญาเพื่อรับค่าเหนื่อยมากขึ้น พร้อมกับเงื่อนไขจุบจิบ มากมาย ที่จะคิดกันได้ แต่ที่ใช้งานเป็นประจำ และมีหลายสโมสรเคยใช้งานกันมาแล้ว นั่นคือเรื่องของ “ค่าฉีกสัญญา” โดยจะกำหนดตัวเลขข้อเสนอมาถึง นักเตะ หากสโมสรใดก็ตามยื่นข้อเสนอ ตามที่กำหนดในสัญญา สโมสร ก็จะต้องปล่อยให้ นักเตะ สามารถเจรจาการย้ายทีมได้ตามต้องการ หรือไม่ต้องการย้ายก็สามารถทำได้

เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน

ดีลแบบนี้ที่เกิดขึ้นล่าสุดในตลาดรอบที่ผ่านมา คือ ดีลของ โธมัส ปาเตย์ กองกลางทีมชาติกาน่า ที่ อาร์เซนอล ยื่นข้อเสนอ 45 ล้านปอนด์ ให้กับ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งพอดีกับที่สโมสรจาก สเปน ระบุไว้ในสัญญากับ ปาเตย์ และนั่นทำให้แม้ว่า แอตเลติโก มาดริด ไม่ต้องการขาย แต่พวกเขาก็ต้องปล่อยตัว นั่นคือ “ค่าฉีกสัญญา”

เซาธ์แธมป์ตัน ก็ทราบถึงวิธีการนี้ แต่พวกเขาก็ไม่อยากที่จะใช้รูปแบบนี้เข้ามาในการเสนอสัญญาใหม่ให้ เพราะ ถ้าตั้ง “ค่าฉีกสัญญา” สูงมากกเกินไป อิงค์ส ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ตกลงต่อสัญญาใหม่ หรือหากไม่สูงมาก พวกเขาก็เหมือนพร้อมจะเสีย นักเตะ ไปได้ทุกเมื่อ หากเขาทำผลงานได้ดี จนมีทีมพร้อมทุ่มเงิน

อย่างไรก็ตามหากการต่อสัญญาไม่คืบหน้า อิงค์ส ผู้ซึ่งมีสัญญาถึงเพียงแค่ กลางปี 2022 จะกลายเป็น นักเตะ ไม่มีค่าตัวทันที เมื่อเข้าสู่เดือนมกราคม 2022 ทันที และหากปล่อยให้สถานการณ์ล่วงเลยไปถึงตรงจุดนั้น เซาธ์แธมป์ตัน อาจจะได้ค่าตัวของเขาเพียงเล็กน้อย หรืออาจจะไม่ได้อะไรเลย กับการที่ต้องเสียเขาไป

นักเตะ บนวัย 28-32 ปี ถูกระบุว่าเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด สำหรับ นักเตะ เพราะจะพร้อมไปด้วย สภาพร่างกาย, พัฒนาการ และประสบการณ์แบบเต็มที่ ดังนั้น สำหรับ นักเตะ สัญญาฉบับใหม่นี้ ก็เหมือนสัญญาฉบับที่ดีที่สุด และ อิงค์ส ต้องเลือกให้ดีเช่นกัน ว่าต้องการแบบไหน เซ็นสัญญาใหม่ หรือเสี่ยงรอทีมใหญ่เข้ามา หากเขาทำผลงานได้ดี แน่นอนข้อเสนอมากมายจะวิ่งเข้าหาเขา แต่หากระหว่างนั้น เขาผลงานไม่ดี หรือโชคร้ายบาดเจ็บยาว สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงทันที

และนี่คือหนึ่งเรื่องราวของการ “ตัดสินใจ” ที่ต้องบอกว่า “เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนอย่างแท้จริง”