เพราะเราคือหนึ่งเดียวกัน

     อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ประกาศยินดีและยินยอมจ่ายเงินจำนวน 7.85 ล้านยูโรในการดูแลค่ารักษาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นเหตุการณ์จนถึงในอนาคตจนกว่าจะครบจำนวนเงินดังกล่าว หลังเรื่องทางกฎหมายจบสิ้นลง พวกเขาประกาศมอบหมายเลข 34 ซึ่งเป็นหมายเลขของเจ้าตัวที่เลือกใช้ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของการพาอาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ เอเรเดวิซี ลีก สมัยที่ 34 (ในยุคที่เขายังลงเล่นอยู่ และปัจจุบันอาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ไปแล้ว 36 สมัย) ให้กลายเป็นหมายเลขของอับเดลฮัค และครอบครัวนูริตลอดไป หากวันหนึ่งคนในตระกูลนูริได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม พวกเขามีสิทธิ์จะได้รับหมายเลขนี้ไปใช้งานต่อไป

     อย่างที่ทราบกันนักเตะหลายคนที่ร่วมรุ่นกับ นูริ แม้จะย้ายทีมออกไปหลายคนเลือกจะสวมเสื้อหมายเลข 34 ลงเล่นกับสโมสรใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), จัสติน ไคลเวิร์ต (ใส่สมัยเล่นกับอาแอส โรม่า ปัจจุบันเล่นกับนีซ) รวมถึง โจแอล เฟลมัน (ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน) เป็นต้น

     ล่าสุด อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตัดสินใจสร้าง “ห้องแต่งตัวขนาดย่อม” ออกมาจัดแสดงเป็นการถาวร ภายในร้านค้าของสโมสร พร้อมกับเสื้อรุ่นสุดท้ายที่ อัลเดลฮัค นูริได้สวมใส่กับทีมแขนวนอยู่ในนั้นเป็นการระลึกถึงที่ไม่ต่างจากการได้อนุสาวรีย์เพื่อเชิดชูเกียรติ รวมถึงชื่อของ อับเดลฮัค นูริ กลายเป็นชื่อของรางวัลสำหรับนักเตะเยาวชนที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาลของสโมสร เพื่อเป็นที่ระลึก และแรงบันดาลใจต่อไปสำหรับเด็กทุกคนในทีมเยาวชน

     แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มิใช่เพียงแค่สโมสร แต่คือส่วนหนึ่งของผู้คน คือส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคน คนที่เกิดที่นี่เชียร์ทีมนี้ เด็กที่เล่นฟุตบอลทุกคน อยากเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ และที่นี่คือหนึ่งในสใมสรที่มีระบบเยาวชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกฟุตบอล