ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

อีกสักนิดกับ ดีล “วาราน – ไวท์”

     ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเขียนบทความนี้ แต่ข่าวล่าสุดที่ออกมาจาก วิลเลี่ยม กัลลาส อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสของ เชลซี, อาร์เซนอล รวมถึง สเปอร์ส ทำให้อยากเขียนในมุมมองของตนเองเกี่ยวกับดีลนี้เสียหน่อย กับกรณีการซื้อตัว เบน ไวท์ (23 ปี สัญญาถึงกลางปี 2026) เจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์ คนแรกในตำแหน่งกองหลังของอาร์เซนอล ที่ซึ่งโดนวิจารณ์พอสมควรเกี่ยวกับ “ราคา” ของเขา และล่าสุด กัลลาส ก็ออกมากล่าวในเรื่องนี้ โดยนำไปเทียบกับ ราฟาแอล วาราน (28 ปี สัญญาถึงกลางปี 2025) ที่ย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาไล่เลี่ยกัน

 

     “มันเป็นเรื่องยากสำหรับผมในความเข้าใจที่ว่า ทำไม อาร์เซนอล ต้องลงเงินตั้ง 50 ล้านปอนด์ เพื่อไปแลกกับ นักเตะ ที่เพิ่งพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ ลีก ขณะที่ในเวลาเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถจ่ายในราคาประมาณ 40 ล้านปอนด์แลกกับ ราฟาแอล วาราน อธิบายผมหน่อยสิว่าเป็นไปได้อย่างไร บางทีส่วนหนึ่งมันอาจเพราะ เบน ไวท์ เป็นคนอังกฤษ”

 

     “วาราน นั้นมีความแตกต่างกับ เบน ไวท์ ที่อายุน้อยอย่างที่ผมบอกไปเขายังไม่ได้พิสูจน์อะไรเลยสักอย่าง กับการต้องลงทุน 50 ล้านปอนด์ในการซื้อตัวเขา เทียบไม่ได้เลยกับการซื้อ วาราน โทษทีนะ เป็นไปไม่ได้เลย และไม่ใช่ วาราน เป็นฝรั่งเศส แต่เขามาจาก เรอัล มาดริด เขาไม่ได้ย้ายมาจาก ไบร์ทตัน ด้วยความเคารพ”

 

     จะว่าไปแล้ว เบน ไวท์ ตั้งแต่วันแรกที่มีข่าวการย้ายทีมเขาก็โดน “ปรามาส และดูแคลนบนความสงสัย” แบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว จากแฟนบอลอาร์เซนอลหลายคน ไม่ใช่เกี่ยวกับความสามารถ แต่มันคือราคาที่ต้องจ่ายของนักเตะคนนี้ ไวท์ ก่อนหน้านี้ลงเล่นในทุกระดับจากลีกทู มาจนถึง พรีเมียร์ ลีก 4 ปี 4 ลีก ตามด้วยการติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และก็ย้ายมา อาร์เซนอล โดยก่อนหน้านี้ นักเตะมีสัญญากับ ไบร์ทตัน ถึงปี 2024

แผนงานที่แตกต่างกัน

     เหตุใดทำไม เบน ไวท์ ถึงราคา “แพง” และทำไม วาราน ถึงราคา “ไม่แพง” ทั้งหมดมันก็มีเหตุผลที่เข้าใจได้ และไม่อาจยอมรับได้แบบ 100 % อยู่ไม่น้อย และการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะลงทุนในรูปแบบใดก็ตาม

 

  • แผนงานของสโมสรแตกต่างกัน

หัวข้อนี้สำคัญที่สุด และจะบ่งชี้ถึงทั้งหมดของเรื่องราวในข้อต่อไป นั่นคือเรื่องของ วิสัยทัศน์ และแผนงานของสโมสร

 

     อาร์เซนอล ชัดเจนกับแผนงานในปีนี้ อ้างอิงจากการสัมภาษณ์ของ “3 ตัวหลัก” ในการซื้อขายรอบนี้ ประกอบไปด้วย วิไน เวนกาเทสเซม, เอดู กาสปาร์ และ มิเคล อาร์เตต้า ยืนยันเหมือนกันหมด อาร์เซนอล เน้นการซื้อขายสำหรับอนาคต ด้วยการลงทุนนักเตะ อายุน้อยที่มองแล้วมีศักยภาพที่น่าจะพัฒนาได้มากกว่าที่เป็นอยู่ พวกเขาต้องการลดอายุนักเตะทั้งทีมให้น้อยลง การซื้อขายรอบนี้จึงชัดเจนที่ว่า อาร์เซนอล ไม่เสริมทัพด้วย นักเตะ อายุมากกว่า 23 ปีเลยสักคนเดียว พวกเขาไม่ได้มองปีนี้ในเรื่องของการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ด้วยซ้ำ แต่พวกเขามองถึงการสร้างทีม และการกลับไปเล่นในยุโรปถ้วยใหญ่ให้ได้เป็นเป้าหมายในปีนี้

 

     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองถึงการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ในฤดูกาลนี้ “ปีศาจแดง” ห่างหายจากสิ่งนี้มานานถึง 8 ปีแล้ว พวกเขาเลือกซื้อผู้เล่นที่ต้องการใช้งานได้ทันที (จาดอน ซานโช่, ราฟาแอล วาราน หรือกระทั่งที่เข้าสู่ช่วงปลายอาชีพอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้าทีมรอบสองในวัย 36 ปี) แน่นอนทั้งหมดมีผลในเชิงบวกกับทีมทั้งหมด พวกเขาต้องการ “ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด” ในปีนี้ และการลงทุนของพวกเขาก็ชี้ชัดว่า พวกเขาต้องการอะไร และว่ากันตามสิ่งที่เห็น พวกเขาก็ลงทุนในลักษณะนี้มา 2-3 ปีแล้วทั้งกับ บรูโน่ เฟร์นานเดส, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค หรือเอดินสัน คาวานี่ พวกเขาไม่ได้ซื้อ “อนาคต” แต่พวกเขาซื้อ “ปัจจุบัน” หรือใช้งานในปัจจุบันที่ยังสามารถไปต่อได้ในอนาคต…รูปแบบการลงทุนแตกต่างกัน เป้าหมายแตกต่าง

อายุการใช้งาน

  • อายุการใช้งาน และระยะสัญญาของ นักเตะ

อ้างอิงจากเว็บไซต์ sportrac เบน ไวท์ อายุ 23 ปี วาราน อายุ 28 ปี ระยะห่าง 5 ปี เทียบเท่ากับระยะสัญญาหนึ่งฉบับ ตามข้อมูลจากสื่อระบุว่า  

ไวท์ รับค่าแรง 8 หมื่นปอนด์ต่อสัปดาห์ / เดือนละ 480,000 ปอนด์ / ปีละ 5,760,000 ปอนด์ เซ็นสัญญาสี่ปี

รวมแล้วค่าเหนื่อย 23,040,000 ปอนด์ ไม่รวม add-on bonus ที่ไม่มีรายละเอียดเผยออกมา

วาราน รับค่าแรง 340,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ / เดือนละ 1,360,000 ปอนด์ / ปีละ 16,320,000 ปอนด์ เซ็นสัญญาสี่ปี

รวมแล้วค่าเหนื่อย 65,280,000 ปอนด์  ไม่รวม add-on bonus ที่ไม่มีรายละเอียดเผยออกมา

 

ส่วนต่างแบบคร่าวๆ ประมาณ 42 ล้านปอนด์เฉพาะในเรื่องของค่าเหนื่อย

 

     อาร์เซนอล ลงทุนกับ “อนาคต” หาก ไวท์ เป็นไปตามที่พวกเขาหวังเป็นตัวหลักของทีมได้ ทำผลงานได้ดี ประสบความสำเร็จได้ ไวท์จะคุ้มค่ากับการใช้งานในระยะยาว เพราะด้วยอายุ 23 อย่างน้อย ๆ 10 ปีที่เขาจะลงเล่นกับทีมได้ต่อไป หรือหากตัดสินใจปล่อยออกจากทีมในแบบขายออก ทีมจะยังได้เงินกลับมาส่วนหนึ่งบ้าง แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ผลงานห่วย โอกาสที่พวกเขาจะขาดทุนกับดีลของ ไวท์ ก็มีไม่น้อยเช่นกัน

 

     ในขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงทุนกับ “ปัจจุบัน” พวกเขาซื้อวารานมาร่วมงานด้วย พร้อมกับ นักเตะ ได้รับสัญญาที่ดีที่สุดในชีวิตไปแล้ว เขาอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของอาชีพ ถ้าผลงานออกมาปัง ยอดเยี่ยม จ่ายแพงกว่านี้ก็คุ้มค่า แต่ถ้าไม่ได้เป็นตามหวัง ถูกกว่านี้ก็อาจจะไม่เวิร์ค แต่นี่คือราคาที่พวกเขาซื้อ “โอกาสที่น่าจะประสบความสำเร็จที่มากกว่า”

 

     อันนี้ยังไม่รวมถึงในเรื่องของการตลาดที่สโมสรสามารถนำไปต่อยอดได้อีกหลายอย่าง ทั้ง ภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของ ไวท์ นั้น เป็นรอง วาราน ค่อนข้างมาก โปรไฟล์ของนักเตะจะเรียกว่า “คนละคลาส” ก็ไม่ผิด คนหนึ่งเพิ่งเล่นพรีเมียร์ ลีก หนึ่งปี ขณะที่อีกคนผ่านประสบการณ ลา ลีกา มาเกือบสิบปี ไม่รวมในระดับชาติที่ก้าวถึงคำว่าแชมป์โลกมาแล้ว

สถานการณ์ที่แตกต่าง เชื้อชาติ

  • สถานการณ์ที่แตกต่าง ระยะสัญญาที่ไม่เท่ากัน ก็ทำให้ราคานักเตะไม่เท่ากัน

     ไวท์ มีสัญญากับ ไบร์ทตัน ถึงปี 2024 เท่ากับเหลือสัญญาสามปี ขณะที่ วาราน เข้าสู่สัญญาปีสุดท้ายกับ เรอัล มาดริด สิ่งที่แตกต่างอีกส่วนหนึ่งคือ ไวท์ ไม่ได้แสดงความชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจากทีม ไบร์ทตันก็ไม่ต้องการขายเขาด้วย ตรงข้ามกับ วาราน ที่ เรอัล มาดริด พยายามหลายต่อหลายครั้งในการเซ็นสัญญาใหม่กับเขา แต่เป็นนักเตะที่ไม่ต้องการ และอยากหาความท้าทายใหม่ จึงเลือกย้ายออกจากทีม

 

     ด้วยความเคารพในศักยภาพของ เบน ไวท์ เขาเป็นดาวรุ่งที่น่าสนใจคนหนึ่ง ราคาของเขาจึงไม่แปลกที่จะมีราคาสูง แต่ราคา 50 ล้านปอนด์ ก็นับว่าสูงมากสำหรับประสบการณ์ และผลงานของเขา นี่คือ “ราคาไม่ได้อยากขาย แต่ในเมื่อพร้อมจ่ายก็พร้อมขาย” ตรงข้ามกับ วาราน นี่คือ ราคาที่พวกเขาจำใจต้องรับไว้ ไม่อย่างนั้นดื้อดึงต่อไป จะไม่มีอะไรให้ได้คืนกลับมา เหมือนที่ เปแอสเช ยังไม่ยอมรับว่าทีมจะต้องเสีย คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ ไป และพยายามยื้อให้ได้อย่างไรอย่างนั้น พอเข้าสู่ มกราคม 2022 เอ็มบั๊บเป้ ก็จะย้ายได้ล่วงหน้าทันที นี่คือกลไกของนักเตะสัญญาปีสุดท้าย ซึ่ง เรอัล มาดริด ก็รู้ดี และพวกเขาก็เลือกยอมรับ และปล่อยไป พร้อมกับทำแบบเดียวกันกับ แรนส์ ในดีลขออง เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า ที่อยู่ในสัญญาปีสุดท้ายเช่นกัน แรนส์ ก็เหลือรับค่าตัวแทนที่จะรั้งไว้เพื่อไมได้อะไรกลับมา

 

     ถ้า ไวท์ กับ วาราน สัญญาเหลือเท่ากัน วาราน ยังไงราคาก็สูงกว่า 40 ล้านปอนด์อย่างแน่นอน เผลอๆ อาจจะไปอยู่ในระดับราคาเดียวกับ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ หรือว่า แฮร์รี่ แมคไกวร์ เลยก็เป็นได้ เพราะด้วยช่วงอายุ และผลงานของเขา เข้าขั้นระดับชั้นำไปนานแล้ว

 

  • เชื้อชาติ

     อาจเป็นหัวข้อเดียวที่เห็นด้วยกับ กัลลาส เพราะ นักเตะ อังกฤษ เวลาย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก ร่วมกัน จะมีโควตา Home Grown Player ติดตัวมาด้วย ซึ่งในพรีเมียร์ ลีก กำหนดว่าสามารถลงทะเบียน นักเตะ ได้เพียง 25 คน โดยมี 17 จะเป็นโควตาสำหรับ นักเตะ ต่างชาติ ที่เหลืออีก 8 คือโควตา Home Grown ซึ่งโควตานี้ก็จะมีกฎและรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่ขอกล่าวในบทความนี้ แต่เอาเป็นว่า มันเป็นหนึ่งในโควต้าที่กำกับดูแลให้ นักเตะ อังกฤษ มีที่ยืนในลีกตัวเอง สามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้ในบ้านเกิด และนั่นทำให้ราคาของนักเตะเหล่านี้ค่อนข้างสูง และทุกทีมต้องบริหารจัดการกันให้ดีในการเสริมทัพแต่ละฤดูกาล เพื่อให้อยู่ในกรอบการทำงานส่วนนี้ด้วย

 

     ท้ายที่สุดแล้ว เบน ไวท์ จะคุ้มค่า หรือ ราฟาแอล วาราน จะเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมหรือไม่ ขึ้นกับผลงานของพวกเขาเป็นสำคัญ นักเตะ หลายคนพิสูจน์มาแล้วว่า “ราคา” ไม่ได้การันตีอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ราคาก็จะบ่งบอกถึงคุณค่า และผลงานที่ผ่านมาของพวกเขาแต่ละคนว่า หากย้ายมาสู่ทีมใหม่ก็มี “โอกาสมากกว่า” ที่จะประสบความสำเร็จได้เท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วขึ้นกับตัว นักเตะ และสโมสรที่เขาย้ายไปร่วมงาน จะเข้ากันได้ดีแค่ไหน และจะพากันก้าวไปสู่เป้าหมายได้หรือไม่ นั่นล่ะที่จะตอบว่า นักเตะคนนี้ “คุ้ม” หรือ “ไม่คุ้ม” กับดีลที่สโมสรต่างลงทุนกันในแต่ละฤดูกาล

 

แต่สำหรับดีลของ ไวท์ และ วาราน ต้องบอกว่าทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้