ในขณะที่อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดการซื้อขาย แต่สำหรับแฟนบอล อาร์เซนอล แล้วความน่าสนใจของพวกเขา มีเรื่องมากกว่าสนใจว่าใครจะเข้ามาเป็น นักเตะใหม่ของทีม
ความพ่ายแพ้แบบอัปยศอดสูสามเกมติดต่อกันในลีกที่ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับสโมสร แถมยังไม่สามารถยิงประตูได้เลย สร้างความผิดหวังเกรี้ยวกราดไปยังแฟนบอลโดยตรงถึง มิเคล อาร์เตต้า ผู้ซึ่งได้นักเตะมากถึง 5 คน พร้อมกับการลงทุนมากกว่า 100 ล้านปอนด์ในตลาดการซื้อขายรอบนี้ แต่ผลงานกลับดิ่งลงเหว
อาร์เตต้า จะ “ออก” หรือ “ไม่ออก” ยังไม่มีใครรู้ แต่ความไม่พอใจของแฟนบอลที่มีต่ออดีตนักเตะชาวสเปนชัดเจนว่า พวกเขาไม่ต้องการโค้ชคนนี้อีกแล้ว เช่นเดียวกับกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนเขาก็เสียงเบาลงไปมาก เพราะผลงานมันชัดเจนว่า “ล้มเหลว”
หนึ่งในนั้นมีมาจากแฟนบอลคนหนึ่งชาวกาตาร์เขามีชื่อว่า คาลิฟา บิน ฮามัด บิน คาลิฟา (Khalifa bin Hamad bin Khalifa) ทวีตของเขาคงไม่มีความหมายอะไร ถ้าเขาไม่ใช่ผู้อยู่ในเชื้อสายราชวงศ์ “อัล-ธานี” และเป็นประธานสโมสร อัล ดูฮาอิล เอสซี สโมสรในประเทศกาตาร์
กาตาร์ หรือ รัฐกาตาร์ หนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ในฐานะของผู้ส่งออกน้ำมันระดับโลก โดยมีแหล่งก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันสำรองเป็นอันดับสามของโลก รวมถึงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในมหาอำนาจหนึ่งในโลกของเรา
ในวงการฟุตบอล กาตาร์ มีความคลั่งไคล้ในฟุตบอลเป็นอย่างมาก ในปี 2022 พวกเขาจะกลายเป็นชาติแรกในตะวันออกกลาง ที่จะได้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 และในปี 2030 พวกเขาจะจัดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ 2030 ก่อนหน้านี้ ฟีฟ่า คลับ เวิล์ด คัพ ก็เคยมาจัดการแข่งขันในประเทศนี้มาแล้ว
คาลิฟา บิน ฮามัด บิน คาลิฟา ในฐานะเป็นบุตรของ ชีค ฮามัด บิน คาลิฟา อัล-ธานี อดีตเจ้าครองนครรัฐกาตาร์ และมีศักดิ์เป็นน้องชายของ ชีค ทามิม บิน ฮามัด บิน คาลิฟา (Tamim bin Hamad bin Khalifa) เจ้าครองนครรัฐกาตาร์ คนปัจจุบัน โดยราชวงศ์ อัล-ธานี ก่อตั้งราชวงศ์มาตั้งแต่ปี 1850
ขณะที่ในวงการฟุตบอล ชีค ทามิม บิน ฮามัด บิน คาลิฟา คือเจ้าของสโมสร ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตั้งแต่ปี 2011 ภายใต้ชื่อของบริษัท กาตาร์ สปอร์ต อินเวสเมนท์ หรือ คิวเอสไอ (QSI) และให้ นาสเซอร์ อัล-เลไลฟี่ นั่งตำแหน่งประธานของ QSI ควบประธานสโมสรไปด้วยพร้อมกัน บริหารงานแทนเขา แต่แน่นอนในเรื่องสำคัญของสโมสร ชีค ทามิม คือคนตัดสินใจ
นับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา คิวเอสไอ ทำให้ เปแอสเช กลายเป็นสโมสรแถวหน้าของวงการฟุตบอล ลงทุนไปมากกว่า 1,300 ล้านยูโร กลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก และล่าสุดอย่างที่เราทราบกันกับการย้ายทีมของ ลิโอเนล เมสซี่ ท่านชีคสั่งเดินหน้าจัดเต็มเพื่อให้ เปแอสเช กลายเป็นที่สุดของวงการให้จงได้
ดังนั้น ทวิตของน้องชายของชีค ทามิม เกี่ยวกับ อาร์เซนอล มันจึงมีความหมาย
“ที่เหลือขึ้นกับเวลา…7 เดือน ผมคิดว่ามันถึงเวลาขาย สถานการณ์มันแย่ยิ่งกว่าแย่ ลอนดอนคือสีแดง” ทวิตที่แสนสั้น แต่ก็ทำให้เกิดกระแสได้รุนแรงไม่น้อย ร้อนไปจนถึง โมฮัมเหม็ด เซเอด อัลคาบี้ ผู้ซึ่งเป็นผู้ดูแลการเงินของทาง คิวเอสไอ ว่าจริงหรือไม่ที่ ราชวงศ์กาตาร์ จะขยับเข้าสู่เวทีพรีเมียร์ ลีก
“ผมได้รับข้อคำถามมากมายเกี่ยวกับ อาร์เซนอล น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถตอบอะไรได้ เบื้องต้นผมไม่ได้รับข้อมูลอะไร สิ่งที่ผมบอกได้คือมีความสนใจในการซื้อสโมสรฟุตบอลในปีนี้ แต่ขั้นตอนมันก็ไม่ง่ายเลย และเรื่องนี้มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้”
เท่ากับว่าถึงตรงนี้ ไม่มีอะไรบอกได้ว่า การที่มีข่าวออกมาว่า ราชวงศ์กาตาร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจผ่านทาง คิวเอสไอ จะเข้ามาซื้อ อาร์เซนอล จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง
อาร์เซนอล ภายใต้การบริหารของ สแตน โครเอนเก้ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน วัย 73 ปี ได้รับการวิจารณ์อย่างหนักถึงการบริหารงานที่ไม่จริงจังเท่าที่ควร โดยเฉพาะในช่วงปี 2007-2017 ที่เขาเข้ามาในฐานะหุ้นส่วนเพียง 10 % และไต่ระดับเรื่อยมาจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของสโมสร พวกเขาอยู่ในสถานะของทีมที่ต้องปลดหนี้จากค่าการสร้างสนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และการลงทุนที่ไม่ได้มากอย่างที่คาดหวังจากการ เทคโอเวอร์สโมสร ของ โครเอนเก้ จนกระทั่งในปี 2018 โครเอนเก้ กลายเป็นผู้ถือหุ้นแบบเบ็ดเสร็จของสโมสรแห่งนี้ ด้วยจำนวน 93.6 % โดยซื้อหุ้นที่เหลืออีก 30 % มาจาก อลิเชร์ อุสมานอฟ มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่ตัดสินใจขายให้ และนำเงินไปร่วมงานกับ ฟาฮัด โมชิริ เพื่อนของเขาในการสร้างทีม เอฟเวอร์ตัน แทน อย่างไรก็ตาม หลังการถือหุ้นแบบเบ็ดเสร็จ การลงทุนของ โครเอนเก้ ก็ยังไม่มากเท่าไรนัก
อาร์เซนอล นับจากปี 2018 เป็นต้นมา พวกเขาผลงานในลีกตกต่ำลงเรื่อยมา จนมาวันนี้พวกเขาแพ้สามเกมแรกในพรีเมียร์ ลีก อยู่ในอันดับที่ 20 ของตารางการแข่งขัน สวนทางกับการซื้อผู้เล่นจำนวน 5 คนเข้าสู่ทีมด้วยยอดเงินมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ที่ดูจะเป็นการลงทุนที่มากที่สุดตลอดเกือบ 10 ปีภายใต้การบริหารของ โครเอนเก้ และเป็นการลงทุนกับ นักเตะ อายุต่ำกว่า 24 ปีทั้งหมด และผลงานที่ออกมาในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลดิ่งลงเหว
ปัญหาของ อาร์เซนอล มีมากมายเหลือเกินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ วิสัยทัศน์ของเจ้าของสโมสร มีเป้าหมายอย่างไร และพวกเขาต้องการอะไรกับสโมสรที่พวกเขาเป็นเจ้าของอยู่ กับ โครเอนเก้ ผ่านมา 14 ปีที่อยู่กับ อาร์เซนอล อาร์เซนอล ทำได้เพียงแชมป์เอฟเอ คัพ 4 ครั้ง และเวลานี้พวกเขาไม่ได้ลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก มาเป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกัน และมันตรงกันข้ามกับ แอลเอ แรมส์ สโมสรอเมริกันฟุตบอลที่ โครเอนเก้ เป็นเจ้าของกับการลงทุนมหาศาลทั้งสร้างสนามใหม่ เสริมทัพด้วยนักกีฬาระดับท๊อปของลีก
การแต่งตั้ง มิเคล อาร์เตต้า เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ผ่านมาแล้ว 20 เดือน อาร์เซนอล แม้จะได้แชมป์เอฟเอ คัพ แต่มาวันนี้ กลายเป็นทีมที่แม้แต่แฟนบอลยังไม่สามารถบอกได้ว่า ทีมมีวิธีการเล่นอย่างไรกันแน่ ไม่มีสไตล์ที่ชัดเจน เกมรุกมีปัญหา เกมรับก็พร้อมเสียประตู แต่มาถึงตรงนี้ การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น
ที่ผ่านมาอาร์เซนอล ตกเป็นข่าวกับการที่จะมี มหาเศรษฐี เข้ามาสนใจซื้อทีมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่ โครเอนเก้ เข้ามา อลิเชร์ อุสมานอฟ คือรายแรกที่พ่ายศึกการแย่งชิงหุ้นในทีม อาร์เซนอล และถอนตัวออกไปเรียบร้อย
2020
อลิโก ดานโกเต้ มหาเศรษฐีชาวไนจีเรีย ประกาศถึงความสนใจในการซื้อสโมสรอาร์เซนอล ภายใต้ชื่อของกลุ่ม ดานโกเต้ กรุ๊ป บนเส้นใต้ที่ว่าตนเองมีโปรเจคต์ในองค์กรที่ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน และจะกลับมาซื้อสโมสรในปี 2021…แต่มาถึงวันนี้ โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก ชื่อของ ดานโกเต้ ก็หายไปเรียบร้อย
2021
ดาเนียล เอ็ก นักธุรกิจหนุ่มชาวสวีเดน หนึ่งในผู้ก่อตั้งคนสำคัญของ สปอร์ติปาย บริการสตรีมมิ่งเพลงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มาพร้อมโปรเจคต์การซื้ออาร์เซนอล พร้อมกับการยื่น “ข้อเสนออย่างเป็นทางการ” ประเมินมูลค่า 1,800 ล้านปอนด์ให้กับตัวแทนของ โครเอนเก้ แต่ได้รับการปฏิเสธ พร้อมเหตุผลว่า พวกเขาไม่ต้องการขายหุ้นไม่ว่าจะจำนวนเท่าไรก็ตาม แต่ เอ็กยืนยันว่าเขายังคงรอคอยโอกาสในการเป็นเจ้าของสโมสร อาร์เซนอล ที่เขาเชียร์มาตั้งแต่เด็กต่อไป
“พวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการเงิน” เอ็ก กล่าวหลังการเจรจาล้มเหลว
จนกระทั่งมาถึงข่าวที่เริ่มต้นด้วย ทวิต ข้อความสั้น ๆ ของ คาลิฟา บิน ฮามัด บิน คาลิฟา เป็นรายล่าสุด…แฟนบอลอาร์เซนอล กลายเป็นมีความสุข ตื่นเต้นไปกับ ทวิต เพียงเท่านี้ที่ยังหาไม่ได้แม้กระทั่งว่าจะซื้อ “จริง” หรือ “ไม่จริง” เสียด้วยซ้ำ บางคนถึงกับบอกว่าจะขอโอนสัญชาติไปเป็นกาตาร์ หากพวกเขาเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรได้จริง…พูดไปเรื่อย หาสาระไม่เจอกันถึงตรงจุดนั้นกันแล้ว
อาร์เซนอล กำลังอยู่ในช่วงของ “วิกฤตศรัทธา” ตกต่ำอย่างที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
เจ้าของสโมสรไม่เป็นที่รักของแฟนบอล ไม่ชัดเจนกับแฟนบอลในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของเป้าหมายหลัก “นำความสำเร็จมาให้กับสโมสร” ที่ถึงเวลานี้ พวกเขาห่างไกลแชมป์พรีเมียร์ ลีก นานถึง 17 ปีแล้ว เช่นเดียวกับผลงานในลีกอันดับ 8 มาเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน
ผู้จัดการทีม มิเคล อาร์เตต้า กล้าเอ่ยปากขอเวลาอีกไม่นาน…และอาร์เซนอลจะกลับมายิ่งใหญ่ แต่ภาพที่เราเห็นคือการเสีย 9 ประตูในสามเกมแรก และยิงไม่ได้เลยในพรีเมียร์ ลีก ไม่รวมถึงทรงบอลที่ต้องถามเลยว่า “ตกลงนักเตะซ้อมกันมาจริง หรือเดินเล่นรอสุดสัปดาห์รับเงินแล้วจบ” และนี่คือทีมที่จะกลับมายิ่งใหญได้จริงหรือ
แฟนบอลเต็มไปด้วย “Hate Speech” สิ้นหวัง และผิดหวังมากมายที่ทนกันมานาน และวันนี้ทีมตกต่ำลงไปอีกกับผลงานสามเกมแรก โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่แพ้ แชมป์พรีเมียร์ ลีก ด้วยการเสีย 5 ประตู แบบโอกาสยิงเพียง 1 ครั้ง ตลอด 90 นาที
บรรยากาศของสโมสรมันไม่ใช่สโมสรใหญ่อีกต่อไปแล้ว สนามยิ่งใหญ่ แฟนบอลจำนวนมาก แต่ผลงานของทีมกลับเล็กลงเรื่อย ๆ เสียทั้งสไตล์การเล่น เสียทั้งผลการแข่งขัน และมาวันนี้ แฟนบอลต้องมามีความสุข และหวังเล็ก ๆ กับ ทวิตสั้น ๆ ข้อความเดียวจากคนรวยหนึ่งคนที่หวังว่า เขาจะพูดจริง และทำได้จริง เพื่อให้เราทุกคนหลุดพ้นบ่วงกรรมเชื้อสายอเมริกันที่ชื่อว่า “สแตน โครเอนเก้” เสียที
อีก 7 เดือนที่ว่าของ คาลิฟา บิน ฮามัด บิน คาลิฟา คือเดือนมีนาคม 2022 เราคงจะได้รู้กันว่า เมื่อถึงเวลานั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น หรือแค่เป็นการทวิตที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เหมือนกับทวิตอีกหลายล้านข้อความบนโลกของเราเท่านั้น
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.