ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

สาลิกาหลงทาง

     หากจะมีสักคนที่ถูกหมายหัว “โดนปลด” ออกจากตำแหน่งในทุกฤดูกาลนับจากย้ายมาคุมทีมชื่อของ สตีฟ บรู๊ซ (60 ปี สัญญาถึงกลางปี 2022) ผู้จัดการทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นับจากมาคุมทีมในเดือนกรกฎาคม 2019 นี่คือฤดูกาลที่สามของเขากับทีม

 

อันดับ 13 และ อันดับ 12 คือผลงานในสองฤดูกาลที่ผ่านมา

 

  • ชนะ 11 เสมอ 11 แพ้ 16 ได้ 44 คะแนน
  • ชนะ 12 เสมอ 9 แพ้ 17 ได้ 45 คะแนน

 

     สองปีที่ผ่านมาพวกเขาแทบไม่ได้ต่างไปจากเดิม ทั้งอันดับในตาราง, คะแนน แม้กระทั่งจำนวนของ ผลชนะ-เสมอ-แพ้ ที่แทบไม่ต่างกันเลย ขณะที่ในฤดูกาลนี้ พวกเขาลงเล่น 4 เกม ยังไม่ชนะใครเลย และแพ้ไปถึง 3 เกม และทุกเกมพวกเขาเสียอย่างน้อยสองประตู โดยหากว่ากันตามสภาพสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เป็นแบบนี้มานานแล้ว นับจาก ไมค์ แอชลีย์ เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรในช่วงปี 2007 และพวกเขาตกชั้นมาแล้วถึง 2 ครั้ง

14 ปีที่ผ่านมาของ นิวคาสเซิ่ล

     14 ปีที่ผ่านมา นิวคาสเซิ่ล พอจะมีช่วงเวลาที่ดีอยู่บ้าง แต่ส่วนมากพวกเขาจะหมดไปกับการดิ้นรนหนีตกชั้น, การซื้อขายผู้เล่นที่จะต้องลุ้นอย่างหนักในทุกปี พร้อมกับข่าวการขายทีมของ ไมค์ แอชลีย์ ที่มักเริ่มต้นด้วยความฮือฮา หวือหวา ก่อนที่สุดท้าย “เสี่ยไมค์” หรือ “ไอ้ไมค์” ในสายตาแฟนบอล และมันเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ที่แม้กระทั่ง อลัน เชียเรอร์ ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีมก็ยากจะยอมรับได้

 

     “ผมเกลียดในสิ่งที่สโมสรของผมเป็น มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมายาวนานมาก มันหลอกหลอน และมันกลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่ว่างเปล่า ไม่มีความหวัง ไม่มีความมุ่งมั่น ผมรู้สึกทรมานกับเรื่องนี้ มันเหมือนกับ ก๊อบปี้ และก็วาง วนลูปแบบนี้เหมือนเดิมในทุกฤดูกาล”

 

     “พวกเขาให้สัญญาใหม่กับนักเตะในทีม เพราะพวกเขาขายนักเตะเหล่านั้นไม่ออก และนั่นทำให้ไม่สามารถนำผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาสู่ทีมได้ เพราะรายจ่ายค่าแรงของนักเตะเดิมที่มี การต่อสัญญาใหม่ มันมีราคาถูกกว่าการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ และแฟนบอลควรได้รับอะไรที่มันดีกว่านี้ ผู้จัดการทีมทุกคนเจอปัญหาเดียวกันหมด เพราะทีมวนลูปเดิมแบบนี้ทุกฤดูกาล” อลัน เชียเรอร์ กล่าวในรายการ แมตซ์ ออฟ เดอะ เดย์ หลังความพ่ายแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1

 

     หากการกลับมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คืองานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ของสาวกปีศาจแดง การกลับมาสู่บ้านเดิมที่เคยสร้างชื่อให้ตัวเองของ สตีฟ บรู๊ซ ครั้งล่าสุดก็กลายเป็นเรื่องเจ็บปวดอีกครั้งสำหรับเขา แต่ครั้งนี้มันหนักยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เมื่อทั้งผลงานไม่ดี และมาพร้อมข่าวลือที่เลวร้าย

 

     ความพ่ายแพ้ในเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นสิ่งที่แฟนบอล นิวคาสเซิ่ล ส่วนใหญ่ทำใจเอาไว้แล้ว แต่บน “ความพ่ายแพ้” ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทนทำใจ ก้มหน้ายอมรับ และให้มันผ่านไป พวกเขาออกมาตะโกน ขับไล่ สตีฟ บรู๊ซ ออกจากทีม พร้อมกับข่าวเกี่ยวกับที่ว่าในช่วงการเบรกทีมชาติสองสัปดาห์ บรู๊ซ ไปพักผ่อนที่โปรตุเกส ซึ่งออกมาจากสื่อท้องถิ่นอย่าง โครนิเคิล ไลฟ์ ที่ระบุว่าเป็นข่าวมาจากแฟนบอล ซึ่งกลาย “เชื้อไฟนอกสนาม” เมื่อสื่อเดิมได้ไปสอบถามเขาโดยตรง ซึ่งนั่นทำให้ บรู๊ซ ถึงกับด่าสวนกลับมา

ความพ่ายแพ้ “เชื้อไฟนอกสนาม”

     “กับเสียงขับไล่ที่ออกมา คุณจะให้ผมยังไงกับมันล่ะ ผมจะพูดอย่างไร ยินดีกับมันหรือ ผมไม่สามารถตอบอะไรได้ในเรื่องนี้ขอโทษด้วย”

 

     “เรื่องการไปพักผ่อนช่วงเบรกทีมชาติ คุณจะทำให้ผมตอบเรื่องนี้ เพราะว่าแฟนบอลมาถามแบบนั้นหรือ เราลงซ้อมกันตลอดสัปดาห์ ซ้อมกันทุกวัน การเตรียมทีมของเราทำงานอย่างหนัก ผมจะบอกคุณให้นะ ผมจะทำอย่างไรในเมื่อเรามี นักเตะ 6 คนต้องไปเล่นเกมทีมชาติของพวกเขา การเตรียมทีมปกติทุกอย่าง เราเตรียมแผนการ และมุ่งมั่นในงานที่ทำ และสิ่งที่ผมจะตอบกับคำถามนี้ มันคือสิ่งที่ผมไม่อยากยุ่งกับคุณ และหนังสือพิมพ์ของคุณ แฟนบอล เป็นแบบที่พวกเขาเป็นอยู่ เพราะแนวทางของคุณ หนังสือพิมพ์ของคุณกับข่าวเชิงลบที่ออกมาอย่างสม่ำเสมอจากหนังสือพิมพ์ของคุณ”

 

     แน่นอนว่าเมื่อสัมภาษณ์นี้ออกมา โครนิเคิล ไลฟ์ ก็ไม่รอช้าสวนกลับทันทีพร้อมกับเหตุผลสามข้อทิ่มแทงใจ “แฟนบอล” มากที่สุด เพราะไม่ว่าอย่างไรคนที่เจ็บที่สุดคือพวกเขา

 

  • มันไม่ใช่สื่อท้องถิ่นในห้องแถลงข่าวที่ตะโกนไล่ “เราต้องการให้บรู๊ซซี่ออกไป” ในสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อเดือนที่แล้ว หรือในเกมล่าสุดที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
  • มันไม่ใช่สื่อท้องถิ่นในห้องแถลงข่าวที่ปล่อยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถล่ม
  • มันไม่ใช่สื่อท้องถิ่นในห้องแถลงข่าวที่ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ได้เพียง 1 จาก 12 คะแนนใน 4 เกมแรกของ พรีเมียร์ ลีก และตกรอบ คาราบาว คัพ พร้อมกับความน่าผิดหวังของตลาดการซื้อขาย

 

     พร้อมกับ “สับแหลก” อีกชุดใหญ่ ทั้งเรื่องของการจัดทีม ไปจนถึงยกคำพูดของบรู๊ซมา แจกแจงและโต้แย้งอย่างร้อนแรง รวมถึงเรื่องของการที่ โค้ช ทุกคน ต้องเจอเรื่องแบบนี้อยู่แล้วกับการต้องตอบคำถามที่น่าอึดอัดใจเวลาแพ้ ไม่ว่าโค้ชจะเป็นใครก็ตาม เรียกว่างานนี้ บรู๊ซ เจอปัญหาเต็ม ๆ จากรอบด้านทั้ง ผลงานในสนาม การไมได้รับการสนับสนุนจากสโมสรที่ดีพอ ไปถึงเหล่าแฟนบอล ที่ก็ต้องบอกว่าพวกเขา “ไม่เชื่อมั่น” เขามาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งแล้งว และล่าสุดการมีปัญหากับสื่อมวลชนท้องถิ่นครั้งนี้ รังแต่จะส่งผลเสียอย่างมากต่อเขาโดยตรง

ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดได้หรือไม่

     ขณะที่ ไมค์ แอชลีย์ ประธานสโมสรนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ยังคงไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น เขายังคงคิดจะขายสโมสร ซึ่งเป็นข่าวทุกปี แต่ก็ไม่สามารถตกลงราคากับผู้ซื้อได้สักครั้ง ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มองถึงการพัฒนาทีมไปข้างหน้าเช่นเดียวกัน ผู้จัดการทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แม้ผลงานจะไม่ดีขึ้น และมีข่าวออกมาว่า ไมค์ แอชลีย์ หากทีมผลงานไม่ตกต่ำเกินไป พวกเขาก็ไม่ต้องการเสียค่าฉีกสัญญาปีสุดท้ายของสตีฟ บรู๊ซ เสียด้วยซ้ำ การเสริมทีมซื้อนักเตะใหม่ แม้จะมีเข้ามาแต่ก็ไม่ได้มาก หรือในหลายครั้งที่เสริมทีมด้วยงบจำนวนมากไปกับผู้จัดการทีมที่ไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้ และทุกอย่างอยู่บนข้อจำกัดด้านการเงิน และการไม่เน้นในเรื่องของการประสบความสำเร็จ แต่เน้นเพื่อความอยู่รอด ขอเพียงแค่ไม่ตกชั้น ก็พอใจแล้วสำหรับ ไมค์ แอชลีย์ นี่คือสิ่งที่แฟนบอล สาลิกาดง ทราบดี ที่เหลือคือรอเวลาขายทีมให้ได้ราคาที่พอใจเท่านั้น

 

     ในตลาดการซื้อรอบรอบที่ผ่านมา นิวคาสเซิ่ล แทบไม่มีการขยับตัวใด ๆ นอกจากการซื้อตัว โจ วิลล็อค ที่ผลงานดีในการยืมตัวมาในปีที่แล้ว รวมถึงยืมตัว ซานติอาโก้ มูนญอซ กองหน้าเม็กซิโก ดาวรุ่งมาอีกคน นอกนั้นฟรีหมด แถมการปล่อยตัวก็เน้นปล่อยฟรีแทบทั้งหมด เรียกว่า ตลาดการซื้อขายรอบนี้ แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้นกับทีม

 

     นิวคาสเซิ่ล เป็นเช่นนี้มาตลอดมากกว่า 1 ทศวรรษ และจะเป็นต่อไป จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสรที่ยังคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าเมื่อไร ฟ้าจะสดใสที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ภายใต้บรรยากาศแฟนบอลเต็มสนามของเหล่า “ทูน อาร์มี่” หนึ่งในแฟนบอลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแฟนบอลที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล

 

พวกเขาสมควรได้รับอะไรมากกว่านี้ มากกว่าที่เป็นอยู่ มากกว่ายิ่งกว่ามากจริง ๆ

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้