ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

มหากาพย์การย้ายทีมของ “อาชาวิน” Part 3

     “มุ่งมั่นกับทัวร์นาเมนต์ (ยูโร 2008) ของนายต่อไป ฉันจะทำงานในส่วนของฉันต่อไป” นี่คือสิ่งที่ แลชเตอร์ ตอบกลับ อาชาวิน หลังจาก บาร์เซโลน่า ยื่นข้อเสนอเข้ามาแล้ว แต่ เซนิตฯ ปฏิเสธข้อเสนอ

     การปฏิเสธข้อเสนอของ บาร์ซ่า ส่งผลต่อความรู้สึกของ อาชาวิน มากพอสมควร เพราะนอกจาก บาร์ซ่า จะเป็นสโมสรใหญ่ระดับโลก และอยู่ในช่วงที่มีความสำเร็จอย่างต่อเนื่องแล้ว พวกเขายังคือสโมสรในดวงใจวัยเด็กของ อาชาวินอีกด้วย แม้เขาจะยกย่อง และเคารพ เซนิตฯ เป็นอันดับหนึ่งเสมอ แต่ก็ผิดหวังมาก

     “เขาเหมือนใจสลายนะ เขาไม่พูดอะไรเลย นั่งอยู่บนพรม และก็นั่งนิ่งแบบนั้นเหมือมัมมี่ ไม่ขยับ ไม่พูด แค่นั่งเท่านั้น”

     หลังจาก บาร์เซโลน่า ผ่านไป อาร์เซนอล เปิดหน้าว่า งบน้อย ไม่น่าไหว อีกหนึ่งสโมสรที่ความสนใจในตัว อาชาวิน คือ สเปอร์ส โดยติดต่อผ่านทาง โจนาธาน บาร์เนตต์ เอเยนต์ชาวอังกฤษ ซึ่งรู้จักกับ แลชเตอร์ เพื่อสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการนำตัว อาชาวิน มาร่วมงานด้วย

     บาร์เนตต์ มาพบกับ แลชเตอร์ และทั้งสองคนเดินทางไป เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อพบกับ อเล็กซานเดอร์ ยูคอฟ ประธานสโมสร เซนิตฯ  แต่ผลที่ออกมาก็เหมือนเดิม “ล้มเหลว” กับการเจรจาที่ดูไม่มีท่าทีจะลงตัวกันได้ ซึ่งบาร์เนตต์ ถึงกับรู้สึกว่า เซนิตฯ ไม่คิดจะทำให้เป็นมันเป็นได้เลยด้วยซ้ำ

ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการเงินทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องขาย

     อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ เซนิตฯ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการเงินทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องขาย นักเตะ เมื่อพวกเขามี ผู้สนับสนุนอย่าง กาซพรอม บริษัทด้านก๊าซยักษ์ใหญ่ของประเทศ เป็นเจ้าของสโมสร

     “พวกเขาไม่ได้เดือดร้อนเงิน ไม่ต้องการขายนักเตะ ดังนั้นทุกครั้งที่มีข้อเสนอ ยื่นเสนอราคา พวกเขาก็ปั่นราคาให้มันสูงขึ้นไปอีก มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับการย้ายทีม”

     สเปอร์ส มีความพยายามไม่ลดละ พวกเขาตามล่าตัวอีกครั้ง โดย แลชเตอร์ ระบุว่า ช่วงต้นฤดูกาล 2008-2009 เซนิตฯ ลงเล่นในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัวแทนของ สเปอร์ส และ เซนิตฯ ได้พบกันเพื่อเจรจาอีกรอบ กับ อาชาวิน และมันมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่ารอบแรก [เซนิตฯ ชนะ 2-1 ในเกมนั้น โดย อาชาวิน ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมนี้]

     “มันเหลือเวลาประมาณ 3-4 วัน ตลาดการซื้อขายรอบเดือนสิงหาคม 2008 มีการพบกันในโรงแรมที่พัก อาชาวิน ก็มานั่งอยู่ในวงสนทนา ซึ่งมีตัวแทนของทั้งสองสโมสร ทุกอย่างไปได้สวย แต่สุดท้ายก็จบเหมือนเดิม เซนิตฯ ไม่ปล่อยตัว”

     หลังการเจรจาจบลง แลชเตอร์ มานั่งคุยกับ อาชาวิน เป็นการส่วนตัว ในโรงแรมที่พักของ นักเตะ เซนิต ในโมนาโก ซึ่งเป็นสถานที่แข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ การเจรจาที่เพิ่งผ่านไป มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของการย้ายทีมของ อาชาวิน ในตลาดการซื้อขายรอบนี้

เราต้องเปลี่ยนแท็กติกแล้วล่ะ เราใจดีเกินไป

     “ฟังฉันนะ ไอ้หนู ถ้าอยากย้ายจริง และหากต้องการโอกาสนั้น เราต้องเปลี่ยนแท็กติกแล้วล่ะ เราใจดีเกินไป” โดยแท็กติกที่ว่าของ แลชเตอร์ คือการใช้พลังของ “สื่อมวลชน” จากหลายประเทศ ยกเว้นในรัสเซีย…

     “ผมติดต่อสื่อในรัสเซียหลายสำนัก แต่พวกเขาไม่ใส่ใจ หรือไม่อยากยุ่งในเรื่องนี้ ดังนั้นผมเลยไปไกลกว่านั้นด้วยการโทรหาสื่ออย่าง สกาย สปอร์ต, เดลี่ เทลกราฟ, เดลี่ เมล ในอังกฤษ และติดต่อสื่อทุกที่ ซึ่งผมรู้จัก บอกเขาเกี่ยวกับความพยายามในการรั้งตัว อาชาวิน ของ เซนิตฯ และคุณก็รู้ว่า สื่ออังกฤษ พวกเขาขึ้นชื่อขนาดไหน”

     “ราคาค่าตัวคือสิ่งที่ทำให้ทุกสโมสรถอนตัว” เทเลกราฟ ยกประโยคนี้ขึ้นมาเป็นจุดขายของข่าว

     “มีเพียง สเปอร์ส ทีมเดียวที่กล้าสู้ราคา แต่ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เป้าหมายของผมในการย้ายทีมยังคงชัดเจน ผมต้องการมัน แต่ที่นี่มันไม่มีอะไรที่ทำได้เลย นอกจากความหวังว่าจะมีปาฎิหารย์ ผมเข้าใจได้แบบเต็มอก ถ้าผมไม่ได้ย้าย ผมก็คงไม่ได้ย้ายอีกแล้ว ผมหวังไว้แบบนั้น ว่าเช้าวันหนึ่ง เจ้าของ กาซพรอม จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับ อารมณ์ดี และบอกว่า “เราใช้งาน อาชาวิน มาพอแล้ว ปล่อยเขาย้ายทีมเถอะ”

     หลังข่าวความต้องการในการย้ายทีมของ อาชาวิน แพร่ออกไป มันก็กลายเป็นกระแสออกไปทั่วโลกฟุตบอล และแน่นอน มันส่งผลถึง เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก

     “ผมมั่นใจว่า สเปอร์ส จะกลับมาพร้อมกับข้อเสนอที่เหมาะสมสำหรับ อาชาวิน เราไม่ได้มีกำหนดเวลา หรือเส้นตายอะไรทั้งนั้น แต่เราจะทำทุกอย่างที่เหมาะสม” ดิ๊ก อั๊ตโวคาท นายใหญ่ของ เซนิตฯ ในเวลานั้นกล่าว

ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ อาชาวิน ไปเล่นฟุตบอลในยุโรปให้ได้

     ขณะที่ แลชเตอร์ ต้องตอบคำถามที่มาพร้อมอารมณ์ขุ่นมัวของ เพื่อนชาวรัสเซียของเขา เขาต้องรับสายเพื่อของเขา พร้อมข้อความทำนองว่า บ้าหรือเปล่า เซนิตฯ ไม่พอใจอย่างยิ่ง

     “ผมบอกกับพวกเขาว่า มันจะดีกว่าที่จะหยุดโทรหาผมด้วยเรื่องนี้ เพราะผมสัญญากับลูกผมไว้แล้วว่า ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ อาชาวิน ไปเล่นฟุตบอลในยุโรปให้ได้”

     ตลาดการซื้อขายสิงหาคมจบลงแล้ว อาชาวิน ยังคงเล่นกับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในขณะที่ แลชเตอร์ พักผ่อนเพื่อเตรียมจะลุยงานของเขาต่อในตลาดรอบต่อไป

     “ผมอยู่ในฮาวาย กำลังพักผ่อนอยู่ในเล้าจ์ของโรงแรม ผมหยิบนิตยสารเกี่ยวกับรถยนต์มาอ่าน ในหนังสือมันมีการพูดถึงเกี่ยวกับรถหายาก และผมเห็นรายชื่อดีลเลอร์ ซึ่งอยู่ในประเทศอังกฤษ ซึ่งหลายคนในนั้นคือชื่อของ ตระกูล แลชเตอร์ ซึ่งเหมือนกับผมเลย”

     “นามสกุลผมเป็นนามสกุลที่หาใครมาเหมือนยากมาก ครอบครัวผมเป็นพ่อค้าเพชรในยูเครน และมีความเชื่อว่า ปู่ของผมเป็นเพียงคนเดียวของตระกูลที่รอดชีวิตจากภัยสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่น่าจะเหลือใครในตระกูลอีกแล้ว แต่เวลานั้นผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก”

     หลังจากนั้นแลชเตอร์กลับมาที่ ลอนดอน เพื่อมาทำงานต่อ และเขาได้รับสายจาก โจนาธาน บาร์เนตต์ ที่เขาไม่ได้พบอีกเลย นับจากเดินทางไปรัสเซียด้วยกันครั้งล่าสุด เขาชวน แลชเตอร์ ไปออฟฟิศของเขา แลชเตอร์ บอกปัดไป เพราะบอกว่าตนเองมีธุระ ถ้าไม่สำคัญจริงเขาจะไม่เปลี่ยนแผนของตนเอง

     “นายมีญาติอยู่ในอังกฤษหรือเปล่า เดนนิส เพราะตอนนี้มีคนที่ตระกูล แลชเตอร์ กำลังตามหานายอยู่ นายมาหาฉันที่ออฟฟิศฉันหน่อย” บาร์เนตต์ กล่าว

     การพบกันครั้งนี้ของ เดนนิส แลชเตอร์ กับคนที่ชื่อสกุลเดียวกับเขา แท้จริงแล้วมันคืออะไร และมันเกี่ยวข้องกับดีลของ อังเดร อาชาวิน อย่างไร ถึงตรงนี้เรื่องราวดีลนี้ ซับซ้อนกว่าที่ใครจะคาดคิด

เรื่องราวกำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญกันแล้ว!!

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้