เกมแรกของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ในฐานะของผู้จัดการทีมผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว ชัยชนะสวยงาม 2-0 เหนือ บียาร์เรอัล ทำให้ตอนนี้พวกเขาเข้ารอบแน่นอนแล้ว ในขณะที่เหลืออีกหนึ่งเกมในรอบแบ่งกลุ่ม F
หลังจากผ่านสัปดาห์ที่อลหม่านที่สุดครั้งหนึ่งในฤดูกาลนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ คาร์ริค เลือกแผนการเล่นเดิมกับระบบ 4-2-3-1 แต่ที่ต่างออกไปคือการให้โอกาส นักเตะ บางคนลงสนาม และบางคนได้ลงในตำแหน่งที่สร้างชื่อให้กับพวกเขา
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ได้รางวัลตอบแทนความอดทน และการยิงประตูได้ในเกมที่แล้ว ลงเล่นตัวจริงในเกมนี้ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ขณะที่ จาดอน ซานโช่ ได้ลงตัวจริงในตำแหน่งปีกขวาอีกเกมต่อเนื่องจากเกมพรีเมียร์ ลีก เกมล่าสุด
หากมองจากสถิติหลังจบเกมที่ เอสตาดิโอ เดอ ลา เซรามิก้า ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไรนัก แต่ที่เห็นได้ชัดเลยคือ บอลมีจังหวะจบสกอร์ได้มากกว่าเดิม ดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ ประตูแรกของเกมนี้ มาจากความผิดพลาดของนายทวารเจ้าบ้าน รุลลี่ ที่ออกบอลไม่ดี ทำให้กลายเป็นเสียบอล และกลายเป็นเสียประตูสำคัญในเกมนี้ ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือเกมเปิด และเข้ทางทีมเยือนทันที ก่อนที่ ซานโช่ จะมากดประตูที่สอง ปิดกล่องให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบในเกมแรกของนายใหญ่คนใหม่ (ชั่วคราว) ของพวกเขา
“มันไม่ง่ายเลยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาสำหรับทุกคน ผมมีความสุขกับชัยชนะ แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นผลการแข่งขันสำหรับ โอเล่ ผมรู้สึกเช่นนั้น และมันไม่ใช่ผลการแข่งขันที่สำคัญสำหรับผมเท่านั้น แต่มันคือสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
“สำหรับผมมันเป็นที่เต็มไปด้วยอะไรหลายอย่าง หลายวันก่อน เอ็ด วู้ดเวิร์ด เข้ามาบอกผม และอยากให้ผมรับงานแทนที่ของ โอเล่ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นคือหน้าที่ของผมในการมาที่นี่ จัดการทีม และนำเกียรติยศของทีมมาที่นี่ แลขอบคุณที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้”
นอกสนามในเรื่องของการมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่ยังคงดำเนินต่อไป ปีศาจแดง ยังตกเป็นข่าวกับ ผู้จัดการทีมแบบรายวัน ทั้งแบบที่ว่างงาน และแบบรับงานอยู่แล้ว ทั้ง เอริค เทน ฮาก (อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม), หลุยส์ เอนริเก้ (ทีมชาติสเปน), แบรนเดน ร็อดเจอร์ส (เลสเตอร์ ซิตี้), เมาริซิโอ โปเชตติโน่ (เปแอสเช), ซีเนอดีน ซีดาน (ว่างงาน) และล่าสุดกับ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ (ว่างงาน)
สถานการณ์ในการตั้งผู้จัดการทีมใหม่ยังคงไม่แน่นอน และเป็นไปได้หลายทางทั้งแบบรับงานมาคุมทีมชั่วคราวจนจบฤดูกาล หรือเซ็นสัญญาระยะยาว โดยหลังเกมนี้ ริโอ เฟอร์ดินานด์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และ พอล สโคลส์ ได้กล่าวถึงในเรื่องนี้
“นี่คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณต้องการสิ่งที่ดี ดีที่สุดในการเปลี่ยนแปลง ไมเคิ่ล คาร์ริค เขาเป็นโค้ช และเพิ่งมีประสบการณ์หนึ่งเกมในการเป็นผู้จัดการทีมเท่านั้น ยังไม่มีประสบการณ์อะไร แม้ผมจะชอบเขามากก็ตาม แต่งานนี้เราจำเป็นต้องการคนที่ดีที่สุดเท่านั้น เกมกับเชลซี มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ หรือเขาอาจจะคุมทีมไม่แพ้ใคร 10 เกมติดต่อกันเป็นไปได้หมด”
เช่นเดียวกับที่ เฟอร์ดินานด์ ยังมองว่า ไมเคิ่ล คาร์ริค ยังไม่เหมาะสมกับงานนี้
“ผมไม่คิดว่าเขาจะให้โอกาสนี้กับ คาร์ริค นะในการได้คุมทีมในระยะยาว ผมคิดว่าพวกเขาจะเลือกใครสักคนเข้ามารับงานคุมทีมเป็นการชั่วคราว และจะมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างถาวรเมื่อจบฤดูกาลนี้ ผมคิดว่าเขาอาจจะหาใครสักคนอย่างเช่น โลรองต์ บลองก์ เข้ามาทำงานเป็นการชั่วคราว ใครสักคนอย่าง เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ที่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมลงตัว ก็อาจจะย้ายมาที่นี่ เขาสนใจงานนี้แน่ แต่ขึ้นกับทาง เปแอสเช ด้วยอีกเช่นกัน”
ขณะที่ ฮาร์กรีฟส์ กล่าวไปในทิศทางเดียวกัน แต่มองว่าเกมกับ เชลซี น่าจะทำให้บอร์ดบริหารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น
“ผมคิดว่าถ้าเขาพาทีมชนะเชลซี อะไรมันก็อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีใครได้งานนี้ ผมคิดว่า ถ้า ไมเคิ่ล สามารถทำผลงานได้ดี ทำทีมไต่อันดับคะแนนชึ้นไปได้ บอร์ดบริหาร ไม่มองข้ามเขาแน่นอน”
มองแล้วการแต่งตั้งผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนใหม่คงจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน พวกเขาล้มเหลวมาแล้วถึง 3 คน นับจากปี 2013 ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป ไม่ว่าจะเป็นแบบ “ผู้ถูกเลือก” อย่าง เดวิด มอยส์ “อาจารย์ใหญ่” อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล, “คนพิเศษ” อย่าง โฆเซ่ มูรินโญ่ จนมาถึง “ตำนาน” อย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พวกเขาเสียเวลามานานถึง 8 ปีกับโค้ชถึง 4 คน (ไม่รวมผู้จัดการทีมชั่วคราว) ที่ยังไม่อาจทำให้พวกเขากลับไปยังจุดเดิมที่เคยรุ่งเรืองได้เลย และมันคงไม่สนุกที่จะต้องวนกลับมาเริ่มใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า และพวกเขาก็ได้แต่หวังว่า “คนต่อไป” จะอยู่นานอยู่ทนด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมเสียที
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.