ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

คุยกับ “เปเย” Part 1

     “El Engineer” มานูเอล เปเยกรินี่ ผู้จัดการทีมชาว ชิลี วัย 67 ปี ชายผู้ผ่านการคุมทีมมาอย่างโชกโชน ผ่านสังเวียน ระดับโลกมาแล้วมากมาย ก่อนที่จะกลับมารับงานคุมทีมในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมากับ เรอัล เบติส สโมสรระดับกลางตารางของ ลา ลีกา เวทีที่เขาผ่านการคุมทีมระดับ เรอัล มาดริด มาแล้ว

วันนี้สื่อดังอย่าง ดิ แอตเลติก ได้มีโอกาสพูดคุยกับเขา ซึ่งนับเป็นสัมภาษณ์ใหญ่ที่หาอ่านยากมาก และวันนี้เรามีบทความแปลมาให้อ่านกัน

“การไม่มีผู้ชมเข้าดูในสนาม เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดในโลก เมื่อคุณมีโอกาสคุมทีมอย่าง เรอัล เบติส หรือว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด”

เวสต์แฮม ก็ไม่ได้ต่างจาก เรอัล เบติส

     “เวสต์แฮม ก็ไม่ได้ต่างจาก เรอัล เบติส พวกเขาทั้งสองสโมสรไม่ใช่ทีมใหญ่ในแง่ของ ความสำเร็จ แต่ทั้งสองทีม เต็มไปด้วยแฟนบอลที่รักพวกเขา และสนับสนุนทีมเสมอ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากนะ ถ้าได้รับแรงสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมแบบนั้น อย่างตอนผมคุม เวสต์แฮม คุณจะรู้สึกได้เลยว่า ลอนดอน จะมีส่วนหนึ่งเป็นเวสต์แฮมไปเลย ไปที่ไหนคุณจะเห็นคนที่เป็นแฟนบอล เวสต์แฮม พวกเขาแสดงออกชัดเจนว่า พวกเขาคือ เดอะ แฮมเมอร์ส พวกเขาตะโกนเชียร์คุณ อยากถ่ายภาพกับคุณ และความรู้สึกนี้ ไม่ต่างกับที่ผมได้รับกับ เรอัล เบติส เลยแม้แต่นิดเดียว”

     “ผมเฝ้ารอการที่จะได้คุมทีมข้างสนาม ในแบบที่มีแฟนบอลเต็มสนามเหย้าของ เรอัล เบติส อีกครั้ง เพราะสมัยผมคุมทีมอื่นใน ลา ลีกา ทั้ง บียาร์เรอัล, เรอัล มาดริด หรือว่า มาลาก้า ที่นี่คือสนามเกมเยือนที่ยอดเยี่ยมมาก และผมกำลังอยู่ในทีมที่เป็นหนึ่งในสโมสรยอดนิยมของประเทศสเปน เป็นคู่อริสำคัญของ เซบีย่า ทีมที่ประสบความสำเร็จในช่วง 2-3 ปีหลังสุด และน่าเสียดายที่เรายังไม่ได้พบกันเลยในสนาม จากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19”

     เปเยกรินี่ สร้างชื่อเสียงในการคุมทีม เริ่มต้นจากงานในบ้านเกิด ก่อนที่จะทัวร์ไปทั่ว อเมริกาใต้ ไม่ว่าจะเป็น เอกวาดอร์ หรือว่า อาร์เจนติน่า ซึ่งเขารับงานคุมทีม ริเวอร์เพลท ก่อนที่จะมาได้งานครั้งแรกในยุโรป กับ บียาร์เรอัล ซึ่งเข้าเคยพา “เรือดำน้ำสีเหลือง” เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว

     “ผมกลับมารับงานในสเปน เพราะนี่เหมือนบ้านเกิดหลังที่สองของผม ต่อจาก ชิลี การกลับมาที่นี่ ผมคิดว่า ผมเริ่มงานได้ดีมาก เรามีสองเดือนแรกที่ยอดเยี่ยม ก่อนจะเจอหายนะในช่วงปลายปี ผลงานเราแย่มาก แต่หลังจากข้ามมาในปี 2021 เราแพ้แค่เกมเดียว ในการพบกับบาร์เซโลน่า ซึ่งผมคิดว่าเราควรได้ผลการแข่งขันที่ดีกว่านั้นมาก”

ห่างหายจากความสำเร็จไปอย่างยาวนาน

     เรอัล เบติส ห่างหายจากความสำเร็จไปอย่างยาวนาน พวกเขาได้แชมป์ครั้งสุดท้ายคือ แชมป์ โคปา เดอ เรย์ ในฤดูกาล 2004-2005 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ เปเยกรินี่ เข้ามาทำงานในสเปนปีแรก แต่หลังจากนั้นพวกเขาไม่เฉียดเข้าใกล้ความสำเร็จอีกเลย

     ณ.เวลานี้ เบติส รั้งอันดับ 6 ใน ลา ลีกา ซึ่งเป็นอันดับที่สามารถเล่นในยูโรป้า ลีก ได้แล้ว แต่ต้องเริ่มจากเกม เพลย์ออฟ เสียก่อน และ เปเยกรินี่ ต้องการมากกว่านั้น ในอีก 13 เกมสุดท้ายของพวกเขาในฤดูกาลนี้ และต้องมาติดตามกันต่อไปว่า พวกเขาจะได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการหรือไม่

     “เราอยู่ร่วมเมืองเดียวกับ เซบีย่า และพวกเขาลงเล่นใน ยูโรป้า ลีก หรือว่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แทบทุกปี เบติส ต้องทำแบบนั้นให้ได้ นั่นคือเป้าหมาย แต่มันก็ไม่ง่ายเลย การเข้าสู่ฟุตบอลยุโรป จะนำมาซึ่งรายได้ที่มากขึ้น และนั่นจะเป็นแรงจูงใจให้กับ นักเตะ อยากย้ายมาร่วมทีมมากขึ้นด้วย มันเป็นปัจจัยที่เชื่อมโยงถึงกัน เราต้องการไปยุโรป เพื่อให้เรามีทีมที่ดีกว่านี้ แต่ความจริงที่เป็นคือ มีอย่างน้อย 7 สโมสรใน ลา ลีกา ที่มี งบประมาณมากกว่าเรา มีทีมที่ดีกว่าเรา ถ้าอยากเป็นหนึ่งในเจ็ดทีมนั้น เราต้องสร้างผลงาน และทุ่มเทแรงกาย แรงใจให้มากกว่านี้ เริ่มต้นจากเป้าหมายในการไปเล่น ยูโรป้า ลีก เป็นอันดับแรก มันไม่เหมือนการเข้าไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก หรอก แต่เราก็ต้องอยู่กับความเป็นจริงเช่นกัน ว่าทุกอย่างต้องมีขั้นตอน ในการก้าวเดิน”

ฟุตบอลอังกฤษ เป็นลีกที่ที่สุดในโลก

     “สำหรับผม ฟุตบอลอังกฤษ เป็นลีกที่ที่สุดในโลก ทุกสโมสรใน พรีเมียร์ ลีก มีงบประมาณ จำนวนมากในการสร้างทีม เลือก นักเตะ ที่ดีเข้าร่วมงานด้วย ไม่รวมถึงการจัดการในองค์กรที่ยอดเยี่ยม ผมคิดว่าตรงนี้ พรีเมียร์ ลีก ทำได้ดี ไม่รวมถึงบรรยากาศในสนามแข่งที่เต็มแทบทุกเกม ยิ่งเป็นทีมใหญ่ ไม่ว่าจะ ลิเวอร์พูล หรือว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงเล่นกับทีมจาก ลีก วัน หรือว่า ลีก ทู แฟนบอลก็จะเข้ามาดูพวกเขาเต็มสนาม แฟนบอลติดตามทีมจากเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่นั่นล่ะ แต่ในแง่ของ เทคนิค ผมคิดว่า ลา ลีกา สเปน มีระดับที่สูงกว่า ลิโอเนล เมสซี่ รวมถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยดวลกันใน ลา ลีกา มายาวนานนับสิบปี ไม่รวมถึงความสำเร็จของทีมชาติสเปน ในช่วงที่ผ่านมา พวกเขาครองความยิ่งใหญ่ได้แบบที่เรียกว่า มียุคสมัยของพวกเขาเอง”

     “ความแตกต่างอีกอย่างเลยก็คือ พรีเมียร์ ลีก เป็นลีกที่เล่นกันเร็วที่สุดแล้ว และบางเกม ทีมอาจจะต้องตามหลัง 3-0 ทั้งที่เกมเพิ่งผ่านไปไม่กี่นาที แต่คุณไม่สามารถผ่อนเกม หรือถอดใจได้หรอกนะ ถ้าทำแบบนั้น คุณเละแน่ เพราะแฟนบอลจะก่นด่าพวกคุณไม่เลิกเลยล่ะ โทษฐานไม่ต่อสู้จนนาทีสุดท้าย พวกเขารักทีมในแบบนั้น ไม่รวมถึงอีกหลายเกม ที่มักจะต้องตัดสินกันในนาทีสุดท้าย และส่วนตัวผมรักในช่วงเวลาแบบนั้นมาก ผมผ่านงานมาทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม บรรยากาศเหล่านี้ มันไม่แตกต่างกันเลย แม้ว่าในแง่ของผลงาน และความสำเร็จ ทั้งสองทีมจะแตกต่างกัน  สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาลงทุนอย่างมาก มากเหลือเกิน ในการสร้างทุกอย่างที่เราเห็นกัน ไม่ใช่แค่เรื่องของ นักเตะ ในสนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึง สนามซ้อม, สนามแข่งขัน ไปจนถึงศูนย์การแพทย์ของสโมสร พวกเขาต้องการความสมบูรณ์พร้อมแบบเต็มพิกัด และนั่นไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมพวกเขาถึงประสบความสำเร็จอย่างมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้