การพบกันของเพื่อนเก่า

กลางสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงสำคัญของฟุตบอลยุโรป เพราะเป็นโค้งสุดท้ายของรอบเพลย์ออฟในทุกรายการแข่งขันเพื่อหาสโมสรเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มกันต่อไป จะถ้วยไหนอย่างไรก็ว่ากันไปตามผลงานในปีที่แล้ว

รอบเพลย์ออฟเป็นเหมือนด่านสุดท้ายที่จะมีหลายสโมสรดังจบเส้นทางลงตรงนี้ และม้ามืดหลายทีมก็ผ่านไปลุยต่อก็ไม่น้อย แต่แน่นอนการเข้ารอบแบ่งกลุ่มมันก็หมายถึงโอกาสในการลงเล่น และรายได้ที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับทุกสโมสร

การจับสลากแบ่งกลุ่มปีนี้ จะแบ่งเป็นสองวันคือวันที่ 25 สิงหาคม 2022 สำหรับแชมเปี้ยนส์ ลีก และ 26 สิงหาคม 2022 สำหรับยูโรป้า ลีก และ ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก โดยมีการจัดพิธีการจับสลากกันในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 6 เกมจะลุยกันตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2022 ก่อนที่ทุกลีกจะพักเบรคหลีกทางให้กับฟุตบอลโลก 2022 ในช่วงปลายปีเป็นเวลาหนึ่งเดือน

กลางสัปดาห์นี้ เพลย์ออฟแชมเปี้ยนส์ ลีก

กลางสัปดาห์นี้ โฟกัสไปที่เกมใหญ่รอบเพลย์ออฟแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่มีคู่หนึ่งเป็นเกมระหว่างสองผู้จัดการทีมที่เคยเป็นอดีตนักเตะดังอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย และ โจวานนี่ ฟาน บรองฮอสท์ มาเจอกันเป็นครั้งแรกในฐานะของผู้จัดการทีม

ฟาน นิสเตลรอย (46 ปี สัญญาถึงกลางปี 2025) ก้าวมาเป็นหัวเรือใหญ่ของสโมสรเป็นครั้งแรก อาจจะดูมือใหม่ในสายงานนี้ แต่ถ้าจะบอกว่าเขาประสบการณ์โค้ชถือว่าแน่นมากคนหนึ่ง เพราะเข้ามาวงการนี้ตั้งแต่ปี 2014 รับงานให้กับ เนเธอร์แลนด์ และ พีเอสวี ในหลายตำแหน่ง ทั้งผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติ, โค้ชกองหน้าของพีเอสวี ย้ายมาเป็นผู้จัดการทีมเยาวชนของทีม เรียกว่าสั่งสมประสบการณ์มานานถึง 8 ปี จนกระทั่งมาวันนี้ที่เขาคิดว่าเขาพร้อมแล้วกับการรับงานใหญ่

ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยเห็นอดีตกองหน้าดัตซ์แมนจะประสบความสำเร็จในแง่ของงานโค้ชมากนักในระยะหลัง ลามมาจนถึงระยะหลังที่ทีมชาติขาดกองหน้าตัวเป้าระดับท็อปอยู่ในทีมไปอีกต่างหาก แม้กระทั่ง มาร์โก ฟาน บาสเท่น ก็ทำงานในด้านโค้ชไม่นานนักก็ตัดสินใจยุติบทบาทไปเรียบร้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาคิดว่ามันไม่เหมาะกับสไตล์การใช้ชีวิตของเขา แต่กับ ฟาน นิสเตลรอย เขากำลังทำลายความเชื่อนั้นด้วยการทำงานหนักที่เขาระบุว่า เขาทำเพื่อทีม มากกว่าเพื่อตัวเอง ต่างจากในสมัยที่เป็นนักเตะ

พีเอสวี เลือกเขามารับงานนี้ต่อจาก โรเจอร์ ชมิดท์ ซึ่งไม่ต่อสัญญาใหม่ และไปรับงานที่เบนฟิก้า ส่วน รุด ทีมเลือกจากสาเหตุทั้งเรื่องของวัยวุฒิ คุณวุฒิ และแน่นอนเขามีความเป็นพีเอสวีแบบเต็มตัว ดังกับพีเอสวี ตั้งแต่เป็นนักเตะ และกลับมารับใช้ทีมหลังจากเลิกเล่นทุกอย่างลงตัว และคงไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าหากสุดท้ายจะเลือกคนในองค์กรที่รู้จักทีมมากที่สุดคนหนึ่งมาทำงานนี้

เอเรเดวิซี ลีก

ปรัชญาของรุด ฟานนิสเตลรอย จากผู้เขียนได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเขา รวมถึงนักวิเคราะห์ของบอลเนเธอร์แลนด์ ระบุว่าเขาเป็นหนึ่งในโค้ชรุ่นใหม่ที่ชอบการให้ทีมได้ครองบอล และการเล่นแบบเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบนในระบบการเล่น 4-2-3-1 หรือว่า 4-3-3 และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเขาเท่านั้น

เอเรเดวิซี ลีก เป็นเวทีสำหรับการให้โอกาสโค้ช และนักเตะอยู่แล้ว ลีกถูกจัดให้เป็นลีกรองของยุโรป ซึ่งด้วยพื้นฐานของรากฐานของการสร้างทีมที่ดีมากของประเทศ ลีกนี้จึงเป็นหนึ่งในลีกส่งออกนักเตะระดับชั้นนำหลายคนไปสู่เวทีใหญ่ได้ต่อไป โค้ชก็ไม่ต่างกัน หลายคนได้รับโอกาสเริ่มต้นที่นี่ หลายคนมาสร้างโปรไฟล์เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และก้าวต่อไปในอนาคต ถ้าคุณผลงานดี โอกาสที่ใหญ่กว่านี้ก็จะแวะเวียนมาถึงอย่างแน่นอน เอริค เทน ฮาก เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนกับการย้ายไปคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปีนี้ เช่นเดียวกับ ฟาน บรองฮอสท์ ที่เริ่มต้นที่นี่ และออกไปโบยบินในยุโรป

โจวานนี่ ฟาน บรองฮอสท์ (47 ปี สัญญาถึงกลางปี 2025) เริ่มต้นในเส้นทางเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่น แต่ “จิโอ” ก้าวออกมาสู่แถวหน้าเร็วกว่ารุดถึง 7 ปี เขาสร้างชื่อเสียงกับเฟเยนูร์ด ก่อนออกไปสู่เวทีใหญ่และกลับมาจบการเล่นฟุตบอลในร๊อตเตอร์ดัม และเข้าสู่วงการโค้ชในฐานะผู้ช่วย มุมมของเขาไม่ได้ต้องการแวะเวียนไปทำงานเบื้องหลัง นานนัก 4 ปีในฐานะคนเบื้องหลังเขากลายเป็นโค้ชทีมใหญ่ของ เฟเยนูร์ด ร๊อตเตอร์ดัม และพาทีมขึ้นไปถึงแชมป์ เอเรเดวิซี ลีก ในปี 2017 เป็นโปรไฟล์สำคัญของผู้ชายอายุ 40 ต้น ๆ ด้วยบุคลิกที่เป็นคนสุขุม มุ่งมั่นกับการทำงาน เขาน่าจะมีอนาคตที่ดีรออยู่แต่แล้วทุกอย่างสะดุดไปเล็กน้อย

สุดท้ายใครจะได้ไปอีกไม่นานคงรู้กัน

หลังการลาออกจากทีม และเขาถอยฉากไปอยู่เบื้องหลังอีกครั้ง เมื่อย้ายไปร่วมงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำหน้าที่เกี่ยวกับข้อมูลนักเตะ และการวิเคราะห์อยู่ช่วงหนึ่งที่ว่ากันว่าที่เขาเลือกรับงานที่นั่น เพราะเขาจะเป็นตัวแทนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หากตัดสินใจอำลาทีม แต่แล้วเมื่อกวาร์ดิโอล่าเลือกต่อสัญญาใหม่กับทีม เขาก็ตัดสินใจอำลาทีมและย้ายไปคุมทีมไกลถึงประเทศจีนกับ กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ หนึ่งปีที่นั่น เขาหายจากหน้าสื่อยุโรปไปพักใหญ่ ยิ่งเมื่อโควิด-19 มาสู่โลกของเราทุกอย่างหยุดชะงัก และเขาก็รอเวลาจนกระทั่งโอกาสมาถึง และเขาเลือกรับงานกับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส อีกหนึ่งทีมเก่าของตนเอง ที่เลือกเขาแทนที่ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ออกไปรับงานกับ แอสตัน วิลล่า และจบฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์ยูโรป้า ลีก

การเจอกันอีกครั้งของทั้งสองคนในรอบนี้เป็นครั้งแรกที่พบกันในฐานะงานโค้ชและจะได้ดวลกันถึงสองเกม ซึ่งเกมแรกที่สกอตแลนด์ ลูกทีมของจิโอ เพลี่ยงพล้ำทำได้แค่เสมอ 2-2 ในไอบรอกซ์ พาร์ค บ้านของตัวเอง และเกมนี้พวกเขาจะออกมาเยือน ฟิลิปส์ สเตเดี้ยม ด้วยโอกาสที่ยังเป็นไปได้สำหรับการพลิกเข้ารอบ สำหรับหนึ่งเดียวที่จะได้ไปต่อ พร้อมการันตีรายได้อีก 40 ล้านยูโรเป็นอย่างน้อยหากเข้ารอบแบ่งกลุ่ม

สุดท้ายใครจะได้ไปอีกไม่นานคงรู้กัน แต่ที่แน่ ๆ เวลานี้วงการฟุตบอลดัตซ์ กำลังจะมีสองโค้ชรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นมาสู่วงการ และใครจะรู้ว่าในอนาคตพวกเขาสักคนหนึ่งอาจได้รับโอกาสในการคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ก็เป็นได้